ประท้วงเดือดวัน May Day ในยุโรป ที่ฝรั่งเศส รุนแรงต้องยิงแก๊สน้ำตา

          ฝรั่งเศส มีการประท้วงเกิดขึ้นมากกว่า 250 จุดทั่วประเทศ รวมทั้งเมืองลีลล์ น็องต์ ตูลูส และมาร์กเซย กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า มีประชาชนเข้าร่วมชุมนุม 116,500 คนทั่วประเทศ ในจำนวนนี้มี 24,000 คนในเมืองหลวง กดดันให้นายเอ็มมานูเอล มาครง ซึ่งเพิ่งชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัย 2 ออกนโยบายที่ให้ความสำคัญกับประชาชนเป็นอันดับแรก เรียกร้องให้ขึ้นเงินเดือน และขอให้นายมาครง ยกเลิกแผนการเพิ่มอายุเกษียณจาก 62 ปี เป็น 65 ปี เพราะฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเกษียณอายุเร็วที่สุดในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมในปัจจุบัน

         การชุมนุมที่กรุงปารีสเกิดความตึงเครียด หลังจากผู้ชุมนุมบางส่วนเป็นกลุ่มชาวชุดดำสวมหน้ากาก ก่อเหตุทุบทำลายกระจกธนาคาร ร้านอาหารจานด่วน และสำนักงานอสังหาริมทรัพย์ และจุดไฟเผาถังขยะ ทำให้ตำรวจต้องเข้ามาระงับเหตุ ด้วยการยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่หลายครั้ง 

        นายเฌราลด์ ดาร์มาแนง รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศส ระบุว่า จนถึงตอนนี้มีผู้ชุมนุมถูกจับกุมแล้ว 54 คน ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 8 นาย 

         ที่ตุรกี ตำรวจเคลื่อนไหวควบคุมการประท้วงในนครอิสตันบูล อย่างรวดเร็ว โดยปิดล้อมผู้ประท้วงไว้ที่จัตุรัสทัคซิม จับกุมตัวผู้ประท้วงโดยไม่ได้รับอนุญาตถึง 164 คน

         ที่กรุงเบอร์ลิน ของเยอรมนี นางฟรานซิสกา กิฟเฟย์ นายกเทศมนตรีขึ้นกล่าวปราศรัยวันแรงงาน ท่ามกลางเสียงประท้วงดั่งสนั่น ก่อนที่การพูดของเธอถูกขัดจังหวะ เนื่องจากมีผู้ชุมนุมบางคนปาไข่เข้าใส่ แม้จะพลาดเป้าก็ตาม โดยเธอกล่าวในเวลาต่อมาว่า การปาไข่ไม่มีประโยชน์และไม่มีคุณค่าทางการเมือง

         ด้านอิตาลี เปิดให้ชุมนุมได้อย่างเต็มที่ หลังจากหยุดนิ่งเพราะโควิด-19 มานาน 2 ปี มีการจัดคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ในกรุงโรม หลังการเดินขบวนและประท้วงในหลายเมืองทั่วประเทศ นอกจากการเรียกร้องให้พัฒนาสถานภาพของแรงงานแล้ว ผู้ประท้วงจำนวนมากยังเรียกร้องให้จบสงครามรัสเซียบุกยูเครน

#ประท้วงวันแรงงานในยุโรป