สองทายาทตระกูลรักตพงศ์ไพศาล ร่วมทุนเปิดบิ๊กโปรเจ็กต์ระดับ Luxury อสังหาริมทรัพย์แบบคอมมูนิตี้ “เรนวูด ปาร์ค คลอง 11 ลำลูกกา” กว่า 3 หมื่นลบ. บนเนื้อที่กว่า 2 พันไร่ ชูจุดเด่นสนามกอล์ฟ 18 หลุม-บ้านพักระดับไฮเอนด์-โรงเรียนนานาชาติ-ศูนย์พักผ่อนผู้สูงอายุ วางศิลาฤกษ์ 1 ก.ค. นี้ คาดเปิดให้บริการเฟสแรกได้ในช่วงปลายปีนี้
นางสาวพิชญา รักตพงศ์ไพศาล ผู้จัดการโครงการเรนวูด ปาร์ค เปิดเผยว่า วันนี้ (1 กรกฎาคม 2565)
ได้จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ เพื่อเริ่มพัฒนาโครงการ “เรนวูด ปาร์ค คลอง 11 ลำลูกกา” เป็นโครงการร่วมทุนระหว่างสองตระกูล คือ “รักตพงศ์ไพศาล” และ “รวยรุ่งเรือง” ภายใต้การบริหารของ กลุ่ม Reignwood Group เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้น ในแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบคอมมูนิตี้ ให้บริการแบบครบวงจร นับเป็นวันที่สำคัญในการเริ่มดำเนินโครงการอย่างเป็นทางการ ที่มาจากแนวคิดของการออกแบบโครงการ โดยสะท้อนความต้องการของผู้อยู่อาศัยในทุกช่วงวัย ท่ามกลางธรรมชาติ และความสะดวกสะบายในทุกด้านที่พร้อมให้บริการอย่างครบวงจร ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของประเทศ และสอดรับกับทิศทางของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงไป หลังจากที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดโควิด-19
การพัฒนาโครงการเรนวูด ปาร์ค คลอง 11 ลำลูกกา ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 2 พันไร่ โดยจะพัฒนาให้โครงการแห่งนี้เป็นโครงการเพื่อที่อยู่อาศัย แบบครบวงจร ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน จากความพร้อมในทุกมิติของการพัฒนาทั้งโลเคชั่นที่เหมาะสม ติดถนนใหญ่ สามารถเชื่อมต่อระบบทางด่วน เพื่อให้ผู้ที่อยู่อาศัย สามารถเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ เข้าสู่ใจกลางกรุงเทพฯ และแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวได้อย่างสะดวก รวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถเชื่อมโยงการเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติทั้งสองแห่งได้อย่างสะดวกสบาย
สำหรับการออกแบบโครงการ นอกจากพื้นที่อยู่อาศัยท่ามกลางธรรมชาติแล้ว ยังได้มีการจัดโซนที่เป็นสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อให้เกิดความลงตัวในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นสนามกอล์ฟขนาดมาตรฐานการแข่งขัน 18 หลุม และสนามกอล์ฟ เพื่อการฝึกซ้อมขนาด 9 หลุม โรงเรียนนานาชาติ ศูนย์กีฬา บ้านพักตากอากาศ บ้านพักสำหรับผู้สูงวัย ศูนย์สุขภาพ คอมมูนิตี้มอลล์ และระบบสาธารณูปโภค ที่รองรับการใช้ชีวิตได้ทุกไลฟ์สไตล์ โดยการพัฒนาในเฟสแรก จะแล้วเสร็จในปลายปี 2565 และจะพัฒนาเสร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการในปี 2568
นอกจากนี้ โครงการเรนวูด ปาร์ค คลอง 11 ลำลูกกา นับเป็นหนึ่งใน 3 แห่งที่จะถูกพัฒนาขึ้นพร้อมๆ กับโครงการ ตีหลี่ มณฑลยูนนาน และโครงการ จิงกุ้ยหู มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ซึ่งดำเนินโครงการในช่วงเวลาเดียวกัน ดังนั้น ทำให้โครงการของ เรนวูด สามารถตอบสนองความต้องการของประชากรขนาดใหญ่ในจีน และกลุ่มคนไทย ที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิต เน้นความเฉพาะตัว รวมถึงการเปิดกว้างเพื่อรองรับผู้สูงอายุ ที่เข้ามาพำนักอาศัย และพักผ่อนในประเทศไทยในระยะยาว
นายพริษฐ์ รักตพงศ์ไพศาล ผู้บริหารโรงเรียนนานาชาติ KIS กล่าวว่า การพัฒนาโครงการดังกล่าว ได้มุ่งเน้นการออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ที่เป็นกลุ่มครอบครัว ที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการนำระบบสถาบันการศึกษาที่มีคุณภาพเข้ามารองรับ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในโครงการ ที่ไม่ต้องคำนึงถึงการเดินทาง เพื่อส่งบุตรหลาน ไปยังสถานการศึกษาที่อยู่ไกลจากบ้าน จึงได้เกิดความร่วมมือกับ โครงการ “เรนวูด ปาร์ค” ที่เข้ามาพัฒนาโรงเรียนนานาชาติ ให้เกิดขึ้นในโครงการ ซึ่งได้นำหลักสูตรระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ และผ่านการรับรอง จากกระทรวงศึกษาธิการ เป็นที่ยอมรับในสถาบันทั้งในและต่างประเทศ และพร้อมเปิดกว้างสำหรับการรับนักเรียนภายนอกโครงการที่สนใจเข้ามาเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นการตอบโจทย์ และสร้างทางเลือกให้กับทุกคน ทั้งผู้อยู่อาศัยในโครงการและ นอกโครงการ
แผนนการพัฒนา โครงการ “เรนวูด ปาร์ค คลอง 11 ลำลูกกา” แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ระยะแรก ประกอบไปด้วยโครงการสนามกอล์ฟ 18 หลุม โรงเรียนนานาชาติ ศูนย์กีฬาหรือสปอร์ตคลับ เพื่อรองรับการเปิดจองพื้นที่ของกลุ่มลูกค้า โดยคาดว่าทำการเปิดขายพรีเซล(Presale) ในเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นการออกแบบที่ทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟสไตล์ของการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน มีความโดดเด่นในด้านความสมบูรณ์แบบของการใช้ชีวิตแบบ One Stop Service เพื่อคนทุกช่วงวัย
การพัฒนาในระยะที่ 2 จะเป็นการก่อสร้างในส่วนของบ้านพักสำหรับผู้สูงอายุ จำนวน 621 ยูนิต แบ่งเป็น 5 โซน เพื่อรองรับกับสังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย และเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งเป็นบ้านพักที่มีการดูแลให้บริการ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกในทุกด้านที่ครบครัน ควบคู่ไปกับการพัฒนา คอมมูนิตี้ มอลล์ ที่พร้อมเปิดให้บริการ กับกลุ่มลูกค้าทั่วไป ซึ่งมีการกำหนดพื้นที่สำหรับการปลูกผัก และผลไม้ที่ปลอดภัย เพื่อไว้บริการสำหรับสมาชิก มีพื้นที่สันทนาการพักผ่อน เพิ่มพื้นที่สีเขียว ใช้เทคโนโลยีนวัตกรรม พลังงานสะอาด ซึ่งทั้งโครงการจะนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมสมัยใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ส่วนแผนระยะที่ 3 เป็นการก่อสร้างโครงการบ้านพักอาศัยขนาดใหญ่บนพื้นที่รอบสนามกอล์ฟทั้งนี้การออกแบบโครงการ เน้นการออกแบบบ้าน และพื้นที่ของโครงการให้เชื่อมโยงกับธรรมชาติให้ได้มากที่สุด