“สัมมากร” ปรับใหญ่ในรอบ 52 ปี ปั้น 7 แบรนด์ใหม่บุกตลาดบ้านหรู 9 ทำเล
วันที่ 7 กรกฎาคม นายณพน เจนธรรมนุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) หรือ SAMCO กล่าวว่า ในปี 2565 เป็นอีกปีที่บริษัทลงทุนครั้งใหญ่ในรอบ 52 ปี โดยออก 7 แบรนด์ใหม่ จำนวน 9 โครงการ รวมเนื้อที่ 210 ไร่ มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยวระดับบน มี 4 เซกเมนต์ ได้แก่ 1.กลุ่มซุปเปอร์ลักชัวรี่ มูลค่า 505 ล้านบาท ระดับราคา 60 ล้านบาทขึ้นไป มี 2 โครงการ แบรนด์ One Gate เอกมัย-รามอินทรา จำนวน 3 หลัง เริ่มต้น 95-135 ล้านบาท และทู เอกมัย อยู่เอกมัยซอย 10 ราคา 85 ล้านบาท
2.กลุ่มลักชัวรี่ มูลค่า 2,210 ล้านบาท ระดับราคา 30-60 ล้านบาท มีแบรนด์ พาร์ค เฮอริเทจ จำนวน 35 หลัง เริ่มต้น 49 ล้านบาท และProvidence Lane ราคา 39 ล้านบาท 3.กลุ่มไฮ-เอนด์ มูลค่า 2,900 ล้านบาท ระดับราคา 10-30 ล้านบาท มีแบรนด์Barn Yard เริ่มต้น 15.9 ล้านบาทเป็นบ้านพักตากอากาศอยู่เขาใหญ่ เป็นโครงการแรกที่บริษัทลงทุนในต่างจังหวัด จะเปิดไตรมาสที่4 อีกแบรนด์อยู่ที่ถนนกรุงเทพกรีฑา ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท จำนวน 64 ยูนิต 4.กลุ่มUpscle มูลค่า 4,440 ล้านบาท ระดับราคา 4-10 ล้านบาท มีแบรนด์Anapana อยู่ถนนลาดกระบัง เปิดตัวไตรมาส3 เริ่มต้น 7 ล้านบาท และแบรนด์Mitti มี 3 โครงการ 3 ทำเลที่ชัยพฤกษ์-วงแหวน ราชพฤกษ์346 และรังสิตคลอง6 เริ่มต้น 5.99 ล้านบาท
“ทั้ง 7 แบรนด์ใหม่เป็นแบรนด์ที่แตกมาจากสัมมากรที่ต่อไปเราจะไม่มีให้เห็นแล้ว และคาดว่าจากโครงการใหม่ที่เปิดขาย ทำให้ในปีนี้มียอดขายอยู่ที่ 3,500 ล้านบาท และรายได้ 2,500 ล้านบาท ซึ่ง 6 เดือนมียอดขายแล้ว1,500 ล้านบาท เติบโต 50%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีลูกค้าต่างชาติสนใจเข้ามาซื้อโครงการของเราด้วย”นายณพนกล่าว
นายณพนกล่าวว่า นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนจะนำที่ดินด้านหน้าหมู่บ้านสัมมากร ถนนรามคำแหงปัจจุบันเป็นพื้นที่ให้เช่าเชิงพาณิชย์พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมรองรับรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรีจะเปิดบริการ ซึ่งมีสถานีที่หน้าโครงการพอดี รวมถึงลงทุนโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ในย่านอื่นๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจ
“ปีนี้ยังมีปัจจัยที่น่าห่วงสำหรับธุรกิจอสังหา คือ ค่าแรง ราคาวัสดุที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มจะปรับขึ้น ส่งผลทำให้ต้นทุนก่อสร้างและราคาบ้านปรับขึ้น”นายณพนกล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่