ลงทุน VS ออมเงิน จะเลือก ออมเงินแบบไหนดี ?

ส่งหน้านี้ให้เพื่อน

ยังจำได้ถึงนิทานเกี่ยวกับเจ้ามดแสนขยันที่คอยเก็บเสบียงอาหารไว้สำหรับวันฝนตก ที่พ่อแม่เคยเล่าให้ฟังตอนเป็นเด็กได้หรือไม่?

ในตอนนั้น คุณคงจะรู้จักออมค่าขนมไว้สำหรับซื้อสิ่งของที่ต้องการ หรืออาจจะเก็บไว้ซื้อไอศกรีมในยามที่ต้องการให้รางวัลตัวเอง เพราะทั้งพ่อแม่และครูต่างก็สอนว่า การออมเงินจะช่วยให้เรารวยขึ้นได้ 

ในขณะที่นิทานเรื่องมดนั้นยังคงให้แง่คิดที่เป็นจริง แต่มุมมองเกี่ยวกับการออมกลับเปลี่ยนไปเมื่อคุณโตขึ้น เพราะการออมอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะสร้างความมั่งคั่งให้งอกเงย แต่คุณยังต้องรู้จักใช้เงินทำงาน – ใช้ลงทุน เพื่อสร้างรายได้ใหม่ (Passive Income)

เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ หากนักลงทุนและนักบริหารการเงินส่วนบุคคลมือใหม่ จะคิดว่าการออมและการลงทุนเป็นเรื่องเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตาม หากคุณเปรียบเทียบการลงทุนกับการออม คุณจะรู้ได้เลยว่า การลงทุนกับการออมเป็นคนละเรื่องกัน ดังนั้น การทำความเข้าใจทั้ง 2 เรื่องนี้จะช่วยให้คุณกำหนดอนาคตทางการเงินของคุณได้ดีขึ้น

การลงทุน vs การออม: ความเหมือนและความแตกต่างที่สำคัญ

การออมกับการลงทุนต่างกันอย่างไร ทำไมคุณถึงควรออมและลงทุน?

โดยพื้นฐานแล้วการออมคือการจัดสรรเงินสำหรับค่าใช้จ่าย อย่างค่าใช้จ่ายไม่คาดฝัน เกิดเหตุฉุกเฉิน เพราะคุณสามารถถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารได้ทันที การออมจึงช่วยให้คุณพร้อมรับมือต่อทุกสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น

นอกจานี้ คุณยังสามารถใช้เงินออมเพื่อวางเป้าหมายระยะยาวได้อีกด้วย เช่น ใช้เป็นทุนเพื่อดาวน์บ้าน หรือทำธุรกิจขนาดเล็ก รวมไปถึงเป็นค่าใช้จ่ายในช่วงจุดเปลี่ยนที่สำคัญของชีวิต เช่น การแต่งงาน ตั้งครรภ์ เรียนต่อ หรือยามเกษียณอายุ ซึ่งบอกได้เลยว่าไม่มีความเสี่ยงในการออม เว้นเสียแต่ว่าคุณจะใช้เงินในทางที่ผิด

ส่วนการลงทุน จริงๆ ก็นับได้ว่าเป็นการออมเงินอย่างหนึ่งเพื่ออนาคตได้ แต่อย่างไรก็ตาม การลงทุนเป็นการออมที่ต่างออกไป เนื่องจากคุณนำเงินไปออมไว้ในที่ที่เงินสามารถเติบโตได้ เช่น หุ้น พันธบัตร กองทุนรวม บัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ และอสังหาริมทรัพย์

ก็เหมือนกับการเพาะต้นกล้าที่ต้องรอให้เติบโตจนกลายเป็นต้นใม้ใหญ่ ต้องใช้เวลาก่อนที่การลงทุนของคุณจะให้ผลกำไร โดยคุณจะต้องจัดการกับความเสี่ยงเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถเกิดขึ้นตลอดเวลา

เช่นเดียวกับการออม ผลตอบแทนหรือผลกำไรของการลงทุนยังสามารถกำหนดและทำเป็นแผนระยะยาวได้ เช่น ลงทุนเพื่อค่าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยของลูก ใช้ยามเกษียณอายุ เป็นงบสำหรับทำธุรกิจ และลดความเสี่ยงในสถานการณ์เงินเฟ้อ

ข้อดีและข้อเสียของการออม

จะเลือก ออมเงินแบบไหนดี

การออมมีประโยชน์มากมาย อย่างแรกเลยคือคุณเข้าถึงเงินสดสำรองได้ทุกเมื่อที่ต้องการ หากคุณมีเป้าระยะสั้นที่ต้องออมให้ได้อย่าง เก็บเงินไปเที่ยวญี่ปุ่นปีหน้า หรือซื้อกระเป๋าถือแพงๆ ในอีก 6 เดือนข้างหน้า การออมก็จะเป็นทางเลือกที่ทำได้จริงมากกว่า อย่างไรก็ตาม การออมก็มีจุดอ่อนจากอัตราเงินเฟ้อ ที่ทำให้มูลค่าของเงินลดลง แม้ธนาคารจะเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษ แต่มันก็ไม่อาจต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อได้

ข้อดีและข้อเสียของการลงทุน

การลงทุนควรเป็นส่วนหนึ่งของคุณที่ช่วยทำให้มีสุขภาวะทางการเงินที่ดี เพราะเป็นส่วนที่ทำให้เงินของคุณมีโอกาสงอกเงยได้มากกว่าการออม หากแนวโน้มเศรษฐกิจดี ก็สามารถคาดหวังผลตอบแทนที่ดีได้

อย่างไรก็ตาม การลงทุนมีความเสี่ยงในหลายๆ ด้าน เช่น ผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในระดับประเทศและโลก ผลการดำเนินงานของโบรกเกอร์หรือผู้จัดการกองทุน บริษัทที่มีชื่อเสียงหรือธุรกิจที่คุณนำเงินไปลงทุน สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อราคาหุ้น กองทุนรวม และพันธบัตรต่างๆ ที่อาจทำให้คุณต้องขาดทุน โดยความกังวลนี้ถือเป็นข้อควรระวัง หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่กระตือรือร้น หรือต้องการเก็บเกี่ยวกำไรระยะสั้น 

ในทางกลับกัน หากคุณไม่ได้มีแผนที่จะแตะต้องเงินลงทุนเลยในอีก 5 ปีข้างหน้า คุณก็สามารถคาดหวังการเปลี่ยนแปลงว่า เงินของคุณจะงอกเงยเพิ่มขึ้นได้อีกครั้ง นอกจากนี้ เมื่อการลงทุนไม่ใช่สินทรัพย์สภาพคล่อง คุณจึงไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ในยามที่ต้องการเงินสด ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่จริงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

จะเลือก ออมเงินแบบไหนดี ?

จะออมเงิน หรือ ลงทุน ควรเลือก ออมเงินแบบไหนดี จะว่าไปคำถามนี้ก็ตอบได้ไม่ยากนัก

คุณแค่ต้องเข้าใจธรรมชาติของการออมและการลงทุน รวมถึงไทม์ไลน์ที่จะให้ผลตอบแทนของทั้ง 2 อย่าง หากเป้าหมายของคุณคือการมีเงินดาวน์บ้าน จ่ายค่าเล่าเรียน หรือเป็นเงินเก็บสำหรับงานแต่งงานของคุณภายใน 3 – 5 ข้างหน้า … การลงทุนก็อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะตอบโจทย์ให้คุณได้ เพราะคุณมีความเสี่ยงที่จะสูญเงินลงทุน ดังนั้น การเก็บเงินของคุณในบัญชีที่มีความเสี่ยงต่ำหรือไม่มีเลย เช่น บัญชีฝากออกทรัพย์ในธนาคารก็ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการเงินก้อนโตไว้สำหรับเดินทางรอบโลกตอนคุณอายุ 60 ปี การนำเงินของคุณไปลงทุนในตราสารที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็ให้ผลตอบแทนสูงเช่นกันอย่าง หุ้น หรือกองทุนรวม ก็อาจเป็นการเดิมพันที่คุ้มค่า

ควรลงทุน หรือ แบ่งออม เท่าไรดี?

การออมเป็นรากฐานของการมีสุขภาพทางการเงินที่ดี ดังนั้นการออมจึงควรมาก่อนเสมอ และเป็นไปได้มากว่า เงินที่คุณจะนำมาใช้ลงทุนของคุณ จะมาจากเงินออมของคุณนั่นเอง หลักการง่ายๆ ในการออมก็คือ คุณควรออมให้มีเหลือเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น จ่ายค่าสินเชื่อ ค่าอาหาร ค่าสาธารณูปโภค และค่าประกันต่างๆ

คุณควรเก็บเงินไว้เป็นเงินทุนฉุกเฉินให้ได้เทียบเท่ากับเงินเดือนของคุณอย่างน้อย 6 เดือน วิธีนี้จะช่วยให้คุณมีเงินเพียงพอที่จะผ่านช่วงเวลาตกงาน หรือต้องช่วยเหลือการเงินของครอบครัวกะทันหัน นอกจากนีั ควรทำประกันสุขภาพไว้สำหรับดูแลตัวเองด้วย 

การลงทุนจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อคุณออมเงินไว้มากพอแล้วเท่านั้น และคุณควรจะรับได้กับความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการลงทุน เช่นเดียวกับการทดสอบน้ำ ที่ค่อยๆ เพิ่มเงินลงทุนลงไปทีละนิด จนกว่าคุณจะคุ้นเคยกับการลงทุน

ลงทุนในอะไรได้บ้าง ?

ลงทุนหรือออม

พูดถึงการลงทุนกับการออมไปแล้ว ตอนนี้คุณคงกำลังคิดว่า ควรจะนำเงินไปลงทุนในอะไรดี แม้ว่าจะมีบริษัทให้เลือกลงทุนมากมาย แต่ก่อนอื่นเลย คุณควรจะเข้าใจถึงผลตอบแทนที่จะได้รับ และรูปแบบพื้นฐานของการลงทุนที่คุณสามารถลองศึกษาดูได้ ดังต่อไปนี้:

ตลาดหุ้น

หุ้นคือหน่วยความเป็นเจ้าของในองค์กร เมื่อคุณซื้อหุ้น คุณก็คือผู้ถือหุ้นของบริษัทนั้น โดยคุณสามารถสร้างรายได้จากการขายหุ้น หรือรอให้มูลค่าของหุ้นนั้นๆ เพิ่มขึ้นในปีถัดไปก็ได้ นอกจากนี้ คุณยังจะมีรายได้จากเงินปันผล ซึ่งเป็นเงินสดหรือรางวัลที่บริษัทมอบให้กับผู้ถือหุ้นด้วย

กองทุนรวม

กองทุนรวมหมายถึง การนำเงินที่รวบรวมได้จากนักลงทุนไปลงทุนต่ออีกทีหนึ่ง โดยผู้จัดการกองทุนจะนำเงินที่รวบรวมมาได้ ไปลงทุนในตราสารทางการเงินต่างๆ เช่น หุ้น พันธบัตร และตราสารทุนรูปแบบอื่นๆ โดยคุณสามารถซื้อกองทุนรวมผ่านบริษัทการลงทุนได้ เช่น Finnomena, Finvest หรือตามแอปธนาคารฯ ต่างๆ 

พันธบัตร

พันธบัตรเป็นเครื่องมือการลงทุนที่คุณให้บริษัทหรือรัฐบาลยืมเงินในระยะเวลาหนึ่ง โดยคุณสามารถสร้างรายได้ผ่านอัตราดอกเบี้ยคงที่ เมื่อพันธบัตรครบกำหนด คุณจะได้รับเงินคืน

อสังหาริมทรัพย์

การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้านและที่ดิน คอนโดมิเนียม และที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ต่างก็เป็นการลงทุนที่ดี เนื่องจากมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ มักจะมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นในปีต่อๆ ไป 

ความเห็นสุดท้าย

โปรดจำไว้ว่าการลงทุนกับการออมนั้นแตกต่างกัน แม้ว่าจะมีบางส่วนที่ซ้อนทับกันอยู่ อย่างไรก็ตามวัตถุประสงค์ของทั้งการออมและการลงทุนนั้นเหมือน เพราะทั้ง 2 สิ่งต่างก็เป็นไปเพื่อให้คุณมีความพร้อมกับอนาคต  เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างให้ชีวิตมีสุขภาพทางการเงินที่ดี

หากคุณยังตัดสินใจไม่ได้ว่า จะออมหรือลงทุนดี ลองนึกดูว่า เป้าหมายในการออมของคุณคืออะไร ตัวคุณเองยอมรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน วิธีนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่า ควรออมหรือลงทุนดีกว่า…


ข้อจำกัดความรับผิด: ข้อมูลที่เผยแพร่ในบล็อกนี้หรือที่อื่นๆ บน www.moneyguru.co.th เป็นการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำชักชวนหรือให้คำแนะนำใดๆ ในการลงทุน แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ ก่อนที่จะดำเนินการกับข้อมูลในบล็อกนี้ เราขอแนะนำให้คุณปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการลงทุนอิสระ เพื่อรับคำแนะนำและรับรู้ถึงความเสี่ยงต่อการลงทุนก่อนที่จะตัดสินใจ


ข้อมูลอ้างอิง บทความ Investment vs Savings: Where Should I Put My Money?  โดย ISABEL SALVOSA

เปรียบเทียบสินเชื่อบุคคล

ไม่พลาดทุกเรื่องราวข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ LINE @MoneyGuruThailand

บทความแนะนำ

  • เทคนิคสร้างรายได้จาก YouTube อยากเป็นยูทูบเบอร์ ต้องทำยังไง
  • ปีใหม่นี้ วางแผนการเงิน ยังไง ให้บรรลุเป้าหมาย
  • ออมทอง vs ผ่อนทอง ต่างกันอย่างไร แบบไหนดีกว่า
  • เลือก ช้อปของเข้าบ้าน อย่างไรให้ประหยัด


ส่งหน้านี้ให้เพื่อน