ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผย ‘คนไทย-ต่างชาติ’ ซื้อคอนโดทะลัก 1.83 แสนล้าน ‘จีน’ เริ่มแผ่ว ‘พม่า เขมร ลาว’ มาแรง
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า จากการติดตามการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั้งหมดในช่วง 9 เดือนของปี 2565 มียอดโอนกรรมสิทธิ์ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ จำนวน 69,391 หน่วย ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปี 2564 ประมาณ 10.5% ขณะที่มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์อยู่ที่ 183,295 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเพียง 0.5% เท่านั้น จากข้อมูลนี้ได้แสดงว่า สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในปี 2565 ที่ผ่านมา 3 ไตรมาสแล้วนั้น ตลาดห้องชุดในภาพรวมน่าจะมีการฟื้นตัวขึ้นแล้ว
นายวิชัยกล่าวว่า มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ จำนวน 7,347 หน่วย มูลค่า 37,500 ล้านบาท ส่วนของคนไทยมีจำนวน 62,044 หน่วย มูลค่า 147,795 ล้านบาท โดยเมื่อดูเฉพาะชาวจีนในช่วง 9 เดือนแรก ยังคงมีการโอนกรรมสิทธิ์เป็นอันดับหนึ่ง มีจำนวน 3,695 คน คิดเป็น 50.3% และมีมูลค่า 18,587 ล้านบาท คิดเป็น 49.57% ของชาวต่างชาติที่โอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด ซึ่งเป็นที่สนใจว่า สัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของผู้ซื้อชาวจีนได้ปรับลดลงเหลือประมาณ 50% จากที่ในปีช่วงก่อนหน้าอยู่ที่ประมาณ 60% คาดว่าน่าจะเป็นผลมาจาการดำเนินนโยบายซีโร่โควิดในประเทศจีน ทำให้การเดินทางของชาวจีนมีข้อจำกัดในช่วงที่ผ่านมา
“แต่ได้พบกลุ่มผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ใน กลุ่มประเทศรัสเซีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา เริ่มมีสัดส่วนที่ปรับเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน และเป็นที่น่าสนใจอย่างมากอีกเช่นกัน ที่ได้เห็นตัวเลขของหลายประเทศในกลุ่มอาเซียน ที่แม้ว่าจะมีจำนวนหน่วยและมูลค่าการซื้อไม่มากนัก แต่กลับมีสัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดปรับเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่าอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ชาวเมียนมา กัมพูชา ลาว และ เวียดนาม รวมถึง ชาวมาเลเซีย ที่มีการเข้ามาซื้อห้องชุดไทยอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา” นายวิชัยกล่าว
นายวิชัยกล่าวว่า ปรากฏการณ์นี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นอานิสงส์ที่ได้รับจากการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศไทยและประเทศต่างๆ มากขึ้น ดังนั้น จึงอาจคาดการณ์ได้ หากประเทศจีนเปิดประเทศในปี 2566 จะช่วยให้ตลาดอาคารชุดไทยสำหรับคนต่างชาติของไทยสามารถเติบโตได้อีกครั้งหนึ่ง
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม้จะมีกรณีของตู้ห่าว แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดคอนโดมิเนียม เพราะต่างชาติสามารถซื้อได้ 49% ของพื้นที่โครงการตามที่กฎหมายกำหนด โดยปีนี้อนันดามีรายได้ลูกค้าต่างชาติรวม 3,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20% ของพอร์ต เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อน ซึ่งลูกค้าหลักยังเป็นจีน ฮ่องกง ไต้หวัน เมียนมา กัมพูชา ส่วนใหญ่ซื้อในทำเลย่านซีบีดี เช่น พระราม 9 สุขุมวิท ห้วยขวาง
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฎิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แสนสิริยังไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีตู้ห่าว เพราะไม่ได้ขายให้จีนในสัดส่วนที่มาก ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าคนไทยและเป็นเรียลดีมานด์ ในปีนี้มียอดขายต่างชาติทั้งบ้านและคอนโดฯอยู่ที่ 7,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 แต่ยังน้อยกว่าก่อนโควิดที่ทำได้ 13,000-14,000 ล้านบาท
“ต่างชาติมาซื้อยังคงเป็นจีน ฮ่องกง ไต้หวัน จีนจากแผ่นดินใหญ่ และซื้อคอนโดมากกว่าบ้าน ระดับราคาเฉลี่ยอยู่ที่ยูนิตละ 5 ล้านบาท ส่วนบ้านตั้งแต่หลังละ 8-70 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ตลาดคนจีนเริ่มแผ่วตั้งแต่มีการล็อกดาวน์ประเทศและมาตรการซีโร่โควิด มีบ้างบางรายที่หายเงียบไป ทิ้งเงินดาวน์ 30% คาดหวังปีหน้าลูกค้าจีนจะกลับมาเพิ่มขึ้น หลังเปิดประเทศแล้ว” นายอุทัยกล่าว
ข่าวน่าสนใจอื่น:
- มหาดไทย ออกคำสั่งโยกสลับปลัดจังหวัด พร้อมแต่งตั้งนายอำเภอ ขึ้นปลัดจังหวัดหลายพื้นที่
- ในหลวง มีพระราชกระแส ทรงขอบใจ คณะแพทย์ฯ รพ.จุฬาฯ ถวายการรักษา เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ อย่างเต็มกำลังความสามารถ
- ฮือฮา! ขายด่วน คฤหาสน์หรู 270 ล้านบาท ย่านเอกชัย จัดของแถมแบบจุกๆ BMW 1 คัน
- เปิดประวัติ ต้นหน เรือหลวงสุโขทัย ที่ยังสูญหาย พบเป็นลูกชายอดีตบิ๊ก ทร.
- กางรายละเอียด ‘ช้อปดีมีคืน’ เติมน้ำมัน ลดหย่อนภาษีได้ กระตุ้นเดินทางช่วงเทศกาล