ซีอีโอโหวต “บ้านหรู 100 ล้าน ดีมานด์จีน” ที่สุดอสังหาแห่งปี’65 ลุ้นปีหน้าฟ้าหลังฝน?
ปี 2565 กำลังจะผ่านพ้นไป ศักราชใหม่ 2566 ปีกระต่ายทองที่กำลังมาเยือน ดูเหมือนจะเป็นอีกปีที่ดีเวลลอปเปอร์อสังหาริมทรัพย์ ตั้งความหวังจะทำให้ใจชื้นได้มากขึ้น หลังจีนประกาศเปิดประเทศวันที่ 8 มกราคมนี้ แม้จะเจอสารพัดปัจจัยลบ มาบั่นทอนกำลังซื้อในตลาดก็ตาม
ก่อนสั่งลาปีเสือ “มติชน” ขอเสียงโหวตจาก 7 ซีอีโอบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ถึงที่สุดแห่งปี 2565 ของตลาดอสังหา
“แสนสิริ” ชี้ปีนี้ฝนชุก ปีหน้าฟ้าหลังฝน
เริ่มที่ “อุทัย อุทัยแสงสุข”ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บอกว่าตลาดอสังหาปี 2565 เริ่มเห็นฟ้าหลังฝน หลังนักท่องเที่ยวเข้ามา จากครึ่งปีแรกเป็นหมอกควันผลจากวิกฤตโควิดกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน และในไตรมาส 4 เริ่มดีขึ้น ประกอบกับจีนเปิดประเทศวันที่ 8 มกราคมนี้ คาดว่าจะเป็นฟ้าหลังฝนนับจากนี้
“อุทัย” เปรียบตลาดอสังหาปี 2565 เป็นปีฝนชุก เจอโจทย์ท้าทายทั้งภาวะเงินเฟ้อ ดอกเบี้ยขาขึ้น ราคาพลังงาน ราคาวัสดุก่อสร้าง ที่หนักสุดคือภาวะเงินเฟ้อที่สูงถึงกว่า 7% กระทบค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้อำนาจคนซื้อซบเซาลง กลุ่มรากหญ้าเข้าถึงสินเชื่อกู้ซื้อบ้านยาก เพราะแบงก์ไม่ปล่อยกู้ แต่ก็เป็นปีที่เศรษฐกิจโดยรวมขยายตัว 3% หลังแย่มากว่า 2 ปี จากสถานการณ์โควิดระบาด
ภายใต้วิกฤต แต่ “แสนสิริ” ยังโตสวนกระแส โดยเฉพาะบ้านลักชัวรี่ที่ขายดิบขายดี ต้องปรับเป้ายอดขายถึง 3 ครั้ง จากต้นปี 35,000 ล้านบาท เป็น 50,000 ล้านบาท สร้างสถิติใหม่สูงเป็นประวัติการณ์ในรอบ 38 ปี
“พฤกษา” โหวตบ้านต่ำ 3 ล้านเหนื่อย
ฝั่งมุมมองของ “ปิยะ ประยงค์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) โหวตให้ปี 2565 เป็นปีที่ตลาดดีกระจุกนั่นคือตลาดกลาง-บนที่บ้านระดับราคา 5 ล้านบาทขึ้นไปยังขายดี ขณะที่ตลาดล่างราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ยังเหนื่อย จากการที่แบงก์คุมเข้มการปล่อยกู้ ทำให้ผู้มีรายได้น้อยซื้อบ้านยากขึ้น เพราะมองว่าจะเกิดฟองสบู่ จึงออกมาตรการมาคุมเข้ม
สำหรับปี 2566 ซีอีโอพฤกษามองว่า ด้วยสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ คงจะเหมือนเดิม ตลาดล่างยังเหนื่อย ตลาดกลาง-บนเป็นพระเอกเพราะยังขายดี ความหวังอยู่ที่ต่างชาติ การที่จีนจะเปิดประเทศวันที่ 8 มกราคมนี้ ยังไม่รู้จะได้ผลแค่ไหน เพราะมีปัจจัยลบมากและเศรษฐกิจโลกก็ถดถอย ซึ่งภาวะเงินเฟ้อจะมีผลให้ราคาบ้านแพงขึ้น ยังมีมาตรการแอลทีวีมาคุมการปล่อยสินเชื่ออีก
“เพอร์เฟค” ยกให้บ้านหรูขุมทรัพย์แห่งปี
ด้าน “ศานิต อรรถญาณสกุล”ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) ยกให้ปี 2565 เป็นปีของบ้านหรูระดับราคา 50-100 ล้านบาท หลังผู้ประกอบการรายใหญ่หลายค่ายทำยอดขายได้ร่วม 30,000 ล้านบาท ทุบสถิติในรอบ 30 ปี ในส่วนของเพอร์เฟค เฉพาะโครงการร่วมทุนกับฮ่องกงแลนด์ทำยอดขายได้กว่า 2,000 ล้านบาท
แล้วปี 2566 ตลาดบ้านหรูจะยังขายดีอยู่หรือไม่ หัวเรือใหญ่เพอร์เฟคบอกว่า ตอบยากเพราะหลังเกิดกลุ่มทุนจีนสีเทาเอฟเฟ็กต์ ทำให้ขณะนี้ตลาดบ้านหรูชะลอตัวไปบ้างต้องรอดูสถานการณ์อีกสักระยะหนึ่ง ทั้งนี้จีนได้มาเติมน้ำในบ่อตลาดอสังหาที่เหือดแห้งจากคอนโดที่หายไป เลยทำให้บ้านหรูขายดี
“อนันดา”ชี้ดีมานด์จีนคือที่สุด
ส่วนบทสรุปฉบับ “ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ยกให้ดีมานด์จีนเป็นที่สุดอสังหาปี 2565 โดยเป็นดีมานด์คนจีนที่รอคอย จากการที่จีนเปิดประเทศและที่ไม่รอคอยจากการที่สวมรอยคนไทย หลังเกิดกรณีตู้ห่าวคงจะกระทบต่อกำลังซื้อต่างชาติ โดยเฉพาะคนจีนน่าจะลากยาวถึงกลางปี 2566 แม้จีนจะเปิดประเทศวันที่ 8 มกราคมแล้วก็ตาม ทั้งนี้มองว่าการกลับมาของคนจีนจะมีผลดีต่อตลาดคอนโดมิเนียมเพราะซื้อได้ 49% อยู่แล้ว
“ศุภาลัย” มองท้องฟ้าอึมครึม เมฆฝนกำลังมา
ด้าน “ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ให้นิยามอสังหาปี 2565 เป็นปีแห่งการฟื้นตัว ซึ่งฟื้นได้ระดับหนึ่ง แต่ยังฟื้นไม่สุด เพราะต่างชาติยังไม่มา ดอกเบี้ยก็ปรับขึ้น และเงินเฟ้อกระทบค่าครองชีพสูงขึ้น ในภาวะเช่นนี้ผู้ประกอบการรายใหญ่จะยังดี แต่รายเล็กยังเหนื่อย
จากสถานการณ์ที่ติดผันจากปี 2565 เอ็มดีศุภาลัยประเมินปี 2566 เมฆฝนกำลังจะมา เพราะยังมีปัจจัยลบเข้ามา ถึงแม้มีปัจจัยบวกกำลังซื้อต่างชาติ และจีนกำลังจะเปิดประเทศวันที่ 8 มกราคมนี้ แต่ยังคาดหวังมากไม่ได้ ซึ่งจีนเข้ามาจะเกิดผลดีต่อภาคการท่องเที่ยว ส่วนผลต่อตลาดอสังหายังคาดเดาลำบาก เพราะไม่มีปัจจัยบวกเลย
รวมถึงภาพรวมเศรษฐกิจและการเมืองที่ “ไตรเตชะ” ย้ำว่าคาดเดาลำบากเช่นกัน ซึ่งการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ยังไม่รู้จะช่วยอะไรได้บ้างหรือไม่ จึงยังฟันธงไม่ได้ว่าเศรษฐกิจและตลาดอสังหาจะดีหรือไม่ดี อย่างไรก็ตามยังคาดหวังจะดีกว่าปี2565 แต่ยังไม่รู้จะเป็นไปได้หรือไม่ เนื่องจากปัจจัยลบมาก
“ธารารมณ์” เคาะ LTV มาตรการสุดช็อก
ไม่ต่างจาก “วสันต์ เคียงศิริ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธารารมณ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) และในฐานะนายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ระบุที่สุดและสุดช็อกของอสังหา 2565 คือ การประกาศไม่มีมาตรการผ่อนคลายแอลทีวี เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะไม่ต่อให้ เพราะคิดว่าตลาดอสังหา ดีขึ้นแล้ว ทั้งที่ในความเป็นจริงนั้น ยังไม่ดี ซึ่งผู้ประกอบการทุกคนยังคิดว่า ธปท.จะขยายให้อีก 1 ปี จึงทำให้ตลาดอสังหาปี 2566 ฟื้นตัวได้ช้ามากขึ้น เพราะปัจจัยลบก็ยังมาก
“ปี 2565 เป็นปีมีสิ่งที่เราคาดไม่ถึง สงครามรัสเซียกับยูเครน ไม่มีใครคาดคิดจะลากยาวและส่งผลกระทบไม่มาก มาตรการอสังหาที่ประกาศออกมาและจะส่งผลใน 2566 ไม่ว่าการไม่ต่อมาตรการผ่อนคลายแอลทีวี ลดค่าโอนเหลือ 1% ราคาประเมินปรับขึ้น 8-10% ส่วนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเรารู้อยู่แล้วโอกาสจะได้ลดยากเพราะปีนี้เก็บ 100% แต่รัฐก็ลดให้ 15% แต่แอลทีวีกระทบตลาดอสังหาเยอะสุด” วสันต์สรุป
“ออริจิ้น” ประเมิน 2565 ปีเคราะห์ซ้ำกรรมซัด
ปิดท้ายที่เสียงจาก “พีระพงศ์ จรูญเอก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และในฐานะนายกสมาคมอาคารชุดไทย มองว่าปี 2565 เป็นปีแห่งเคราะห์ซ้ำกรรมซัดตลาดอสังหา ต้องเผชิญวิกฤตซ้อนวิกฤตจากโควิด มาเจอสงครามรัสเซียกับยูเครน
โดย “ซีอีโอออริจิ้น” คาดหวังปี 2566 จะเป็นฟ้าใหม่ที่สดใส จากสถานการณ์การท่องเที่ยวฟื้นตัว ต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศมากขึ้น ยิ่งจีนจะเปิดประเทศวันที่ 8 มกราคมนี้ จะเป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจไทยและตลาดอสังหา โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมที่จะเติบโต 30-35% และน่าจะกลับมาใกล้เคียงก่อนปี 2562 ส่วนตลาดบ้านแนวราบจะยังทรงๆ