อั้นไม่ไหว ต้นทุนค้ำคอ ‘บ้าน-คอนโด’ จ่อปรับราคา 5-10% รอ ’จีน’ คัมแบ็ก
วันที่ 1 มกราคม นางอาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริชี่เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) และนายกกิตติมศักดิ์สมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผยว่า ในปี 2566 ต้นทุนการก่อสร้างบ้านและคอนโดมิเนียมยังคงสูงขึ้นสะสมมาอย่างต่อเนื่องจากปี 2565 ทั้งราคาวัสดุ ค่าแรง รวมถึงยังมีปัจจัยจากการปรับขึ้นอัดราดอกเบี้ยแล ภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลต่อราคาบ้านในปีหน้าจะปรับขึ้นประมาณ 5-10% ขึ้นอยู่กับแต่ละเซ็กเมนต์ และผู้ประกอบการแต่ละราย
“หากผู้ประกอบการมีสต็อกเก่าอยู่จะปรับราคาขึ้นไม่มาก แต่ถ้าเป็นบ้านต้นทุนใหม่จะปรับราคาขึ้นมาก นอกจากนี้ยังมีปัจจัยทางการเมืองที่ต้องจับตาหลังมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ในส่วนของนโยบายที่หาเสียงไว้ เช่น การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่อาจจจะส่งผลกระทบด้วยเช่นกัน” นางอาภากล่าว
นายอธิป พีชานนท์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ในปี 2566 ราคาบ้านจะมีการปรับขึ้นอย่างน้อย 3-5% จากปัจจัยลบที่กดดันต้นทุนปรับตัวสูงขึ้น เช่น ราคาน้ำมัน เงินเฟ้อ ดอกเบี้ย ราคาประเมินที่ดิน ค่าแรง ค่าไฟ
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฎิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์ราคาบ้านในปี 2566 ขึ้นอยู่กับภาวะเงินเฟ้อและราคาพลังงาน เพราะจะมีผลต่อราคาวัสดุก่อสร้าง หากราคาวัสดุขยับขึ้น 3% ราคาบ้านจะขยับขึ้น 2% ถ้าเงินเฟ้อสูงขึ้นอยู่ที่ 10% ราคาบ้านจะปรับขึ้น 7% ทั้งนี้ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่เป็นแบบนี้และจากต้นทุนก่อสร้างที่ยังคงสูงขึ้นต่อเนื่องจากปี 2565 ราคาบ้านในปีหน้าปรับขึ้นแน่นอนอย่างน้อย 5-8%
นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ต้นทุนการก่อสร้างบ้านและคอนโดมิเนียมยังคงสูงขึ้นจากปี 2565 มาจากหลายปัจจัย เช่น การปรับค่าแรงขั้นต่ำ แรงงานขาดแคลน ราคาวัสดุที่ปรับขึ้นตามเงินเฟ้อ ราคาพลังงาน เป็นผลมาจากสงครามรัสเซียกับยูเครน ราคาที่ดินยังมีราคาสูง อัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้น ส่งผลให้ราคาปีหน้าต้องปรับขึ้นอีกแน่นอน
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และในฐานะนายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า จากปี 2565 เป็นปีแห่งเคราะห์ซ้ำกรรมซัดตลาดอสังหา ต้องเผชิญวิกฤตซ้อนวิกฤตจากโควิดและสงครามรัสเซีย-ยูเครน คาดหวังปี2566 จะเป็นฟ้าใหม่ที่สดใส การท่องเที่ยวฟื้นตัว หลังต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศมากขึ้น ยิ่งเมื่อจีนจะเปิดประเทศวันที่ 8 มกราคมนี้จะเป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจและตลาดอสังหา โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่จะเติบโต 30-35% และน่าจะกลับมาใกล้เคียงก่อนปี2562 ส่วนตลาดบ้านแนวราบจะยังทรงตัว