“แลนด์ฯ” เปิดแผนปี’66 ลุย 17 โครงการมูลค่ากว่า 3.4 หมื่นล. ทุ่ม 6 พันล.ตุนที่ดินเพิ่ม
นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ ประธานคณะกรรมการ บริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือLH เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2566 ยังมีอัตราการฟื้นตัวต่อเนื่องจากปี2565 โดยเฉพาะแนวราบจะเห็นผู้ประประกอบการเข้าลงทุนโครงการมากขึ้น ส่วนคอนโดมิเนียมจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปหลังตลาดหดตัวต่อเนื่อง 2-3 ปี มีปัจจัยหนุนจากเศรษฐกิจในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นและดีมานด์ลูกค้าต่างชาติจะทยอยกลับมาตามการเปิดประเทศ และการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในเมืองจะน้อยลง เพราะที่ดินแพงจะเน้นไปทำเลชานเมืองมากขึ้น ระดับราคาเฉลี่ย 70,000-80,000 บาทต่อตารางเมตร(ตร.ม.) ขณะที่ตลาดอสังหาเพื่อเช่าทั้งศูนย์การค้าและโรงแรมในเครือ หลังโควิดคลี่คลายและเปิดประเทศ ทำให้เริ่มดีขึ้นตั้งแต่ครึ่งหลังของปีที่ผ่านมาและบริษัทได้ลงทุน ผ่านบริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด
(LHMH) และ LH USA จำนวน 3,700 ล้านบาทในศูนย์การค้าเทอร์มินอล21 พระราม3 มูลค่า 350 ล้านบาท โรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยาและอพาร์ตเมนต์ จำนวน 3,350 ล้านบาท
นายนพรกล่าวว่า สำหรับแผนดำเนินการในปี 2566 ตั้งเป้ามียอดขาย 35,000 ล้านบาท รับรู้รายได้จากยอดโอนกรรมสิทธิ์ 33,000 ล้านบาท และรายได้จากอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า 7,150 ล้านบาท โดยมีแผนจะเปิดโครงการใหม่ จำนวน 17 โครงการ มูลค่ารวม 34,960 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8% แบ่งแนวราบ 16 โครงการ มูลค่า 28,460 ล้านบาท ได้แก่ บ้านเดี่ยว 15 โครงการ บ้านแฝด 1 โครงการ ทาวน์เฮ้าส์ 1 โครงการ และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ มูลค่า 6,500 ล้านบาท เป็นโครงการอยู่ในกรุงเทพและปริมณฑล 13 โครงการ และต่างจังหวัด 4 โครงการ รวมเป็นโครงการที่จะดำเนินการทั้งหมดในปีนี้ จำนวน 87 โครงการ มูลค่ารวม 91,320 ล้านบาท เป็นแนวราบจำนวน 78 โครงการ มูลค่า 76,450 ล้านบาทและคอนโดมิเนียมจำนวน 9 โครงการ มูลค่า 14,870 ล้านบาท โดยราคาเฉลี่ยต่อหน่วยขายในปีนี้ใกล้เคียงกับปีก่อนอยู่ที่ 8.8 ล้านบาทและแพงสุดอยู่ที่ 80-100 ล้านบาท พร้อมกันนี้จะเปิดบริการโรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยต์ สุรวงศ์ มูลค่า 2,300 ล้านบาท ในปี2567จะเปิดแกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยต์ ลุมพีนี มูลค่า 4,800 ล้านบาทและปี 2569 เปิดแกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยต์ ราชดำริ2 มูลค่า 4,600 ล้านบาท
“หลังเราหยุดทำคอนโดมิเนียมมา 4-5 ปี จากนั้นกลับมาเปิดเดอะคีย์ที่พระราม3แล้วก็หยุดไป 2 ปี เพราะต้องใช้เวลาบริหารจัดการสต็อก ถึงตอนนี้เรามีสต็อกคงเหลืออยู่กว่า 7,000 ล้านบาท คาดใช้เวลาอีก 2 ปีถึงจะขายหมด จนมาถึงปีนี้ที่เรากลับมาเปิด 1 โครงการ ทำเลศรีนครินทร์ เริ่มเปิดขายไตรมาส3 เนื้อที่ 12.3 ไร่ มี 805 ยูนิต ขนาด 50-60 ตารางเมตร ราคาเฉลี่ยยูนิตละ 8.1 ล้านบาทและเจาะลูกค้าเรียลดีมานด์รับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองจะเปิดใช้กลางปีนี้ ”นายนพรกล่าว
นายนพรกล่าว่า นอกจากนี้ในปีนี้บริษัทเตรียมงบลงทุน 9,000 ล้านบาทสำหรับซื้อที่ดิน 6,000 ล้านบาทเพิ่มจากแลนด์แบงก์มีอยู่ในปัจจุบัน 10,000 ล้านบาท ซึ่งราคาที่ดินปรับสูงขึ้นทุกปีเฉลี่ย 5%ต่อปี ส่วนอีก 3,000 ล้านบาทที่เหลือจะลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่าและมีแผนจะขายโรงแรมที่พัทยาเข้ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์(REIT) ส่วนศุนย์การค้าเทอร์มินอล21 ยังไม่มีแผนเปิดโครงการใหม่ รวมถึงจะออกหุ้นกู้อีก 14,000 ล้านบาท อายุ 2-3 ปี เริ่มออกเดือนเมษายนนี้ ส่วนราคาบ้านในปีนี้ด้วยต้นทุนที่ยังคงสูง คาดว่าอาจจะมีปรับขึ้นประมาณ 5%