LH วางเป้าปี 66 รายได้รวม 4 หมื่นลบ.ลุยเปิด 17 โครงการ 3.5 หมื่นลบ.อัดงบลงทุน 9 พันลบ.

ส่งหน้านี้ให้เพื่อน

LH วางเป้าปี 66 รายได้รวม 4 หมื่นล้านบาท ยอดขาย 3.5 หมื่นล้านบาท พร้อมลุยเปิดใหม่ 17 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 3.5 หมื่นล้านบาท อัดงบลงทุน 9 พันล้านบาท ลุยโครงการที่อยู่อาศัยและอสังหฯให้เช่า


 นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ ประธานคณะกรรมการบริษัท บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานปี 66 ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายที่ 3.5 หมื่นล้านบาท สูงกว่าปีก่อนคาดทำได้ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท และรายได้จากยอดโอนกรรมสิทธิ์ทรงตัว 3.3 หมื่นล้านบาท ส่วนรายได้จากอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าที่ 7.15 พันล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่อยู่ 4 พันล้านบาท


 โดยมีแผนเปิดโครงการใหม่ 17 โครงการ มูลค่ารวม 3.49 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากปี 65 โครงการที่จะเปิดใหม่อยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล 13 โครงการ และต่างจังหวัด 4 โครงการ เป็นแนวราบ 16 โครงการ มูลค่า 28,460 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ มูลค่า 6,500 ล้านบาท คือโครงการ The Key ศรีนครินทร์ ที่จะเปิดตัวในไตรมาส 3/66


 ส่งผลให้บริษัทมีจำนวนโครงการที่ดำเนินการทั้งหมด 87 โครงการ มูลค่ารวม 91,320 ล้านบาท เป็นสินค้าแนวราบ 78 โครงการ มูลค่า 76,450 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 9 โครงการ มูลค่า 14,870 ล้านบาท ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยอยู่ที่ 8.8 ล้านบาท ใกล้เคียงจากปี 65


ในปี 66 เตรียมงบลงทุน 9,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสำหรับซื้อที่ดินเพื่อการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย 6,000 ล้านบาท งบลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่า 3,000 ล้านบาท


บริษัทมีแผนจะออกหุ้นกู้วงเงิน 1.4 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ในระดับที่ไม่เกิน 1 เท่า พร้อมมีแผนที่จะขายโรงแรมในประเทศไทยเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) มูลค่าราว 9,000 ล้านบาท


สำหรับภาพรวมอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าในไทยปี 65 เป็นปีที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับการกลับมาของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ปัจจัยดังกล่าวส่งผลดีโดยตรงกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าของบริษัทฯ ทั้งในส่วนโรงแรม อพาร์ทเมนต์ และห้างสรรพสินค้าทั้งในประเทศไทย และสหรัฐอเมริกา ซึ่งบริษัทฯลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่าผ่าน บริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด (LHMH) และ บริษัท Land and Houses U.S.A., Inc. (LH USA)

โดยบริษัท LHMH ได้เปิดดำเนินโครงการใหม่ 2 โครงการ ได้แก่ โรงแรม Grande Centre Point Space Pattayaและศูนย์การค้า Terminal 21 Rama 3 ส่วนอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าในสหรัฐฯ บริษัทยังไม่ได้ขายตามแผนที่ตั้งไว้ เนื่องจากสถานการณ์เงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างมาก ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลกระทบต่อมายังราคาขายไม่ได้ตามคาดหวัง


ส่วนปี 66 คาดตลาดคอนโดมิเนียมจะฟื้นตัวต่อเนื่องจากปี 65 โดยจะเป็นการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนทั้งจากเศรษฐกิจภายในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างดีมานด์ในประเทศให้แข็งแกร่ง รวมถึงดีมานด์จากลุ่มลูกค้าต่างชาติที่น่าจะทยอยกลับมาตามการเปิดประเทศ และการเดินทางที่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ


ขณะที่กรณี บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL ผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ มองว่าไม่ได้เป็นความเสี่ยงของทั้งตลาด เพราะหุ้นกู้ที่มีโอกาสผิดชำระหนี้ (Default) ส่วนใหญไม่มีเครดิตเรตติ้ง อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูง 5-6% ขึ้นไป แต่ถ้าหุ้นกู้กลุ่ม Investment Grade ที่มีเรทติ้งสูง AAA, AA- จัดเป็นตราสารหนี้กลุ่มน่าลงทุนเพราะไม่มีความเสี่ยงในการผิดชำระหนี้ หรือมีความเสี่ยงในการผิดชำระหนี้ต่ำ


ส่งหน้านี้ให้เพื่อน