ทนายษิทรา พาหญิงสาวแจ้งเอาผิด ปริญญ์ เพิ่มอีก

ส่งหน้านี้ให้เพื่อน

เช้านี้ที่หมอชิต – มีหญิงสาวผู้เสียหายไปแจ้งความเอาผิดกับ นายปริญญ์ พาณิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพิ่มอีก โดยหนึ่งในนั้นเป็นหญิงสาวที่ปรากฏตามคลิปเสียงที่ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม พาผู้เสียหายรายที่ 4 ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ สน.ลุมพินี ไปแจ้งความกับตำรวจ เพื่อเอาผิดกับนายปริญญ์เพิ่ม ก่อนที่หญิงสาวผู้เสียหายรายอื่น ๆ จะทยอยเข้าแจ้งความ  

นายษิทรา เปิดเผยว่า มีผู้เสียหายมาแจ้งความเพิ่มอีก 9 คน ซึ่งหนึ่งในผู้ที่พามาแจ้งความคนหนึ่ง เป็นผู้อัดคลิปเสียงหลักฐานการพูดคุยกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งบอกวว่าไม่ได้ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งผู้เสียหายรายนี้ เคยถูกข่มขืนเมื่อปี 2563 และคาดว่าคดียังอยู่ในอายุความ เพราะมีการแก้ไขกฎหมายไม่ให้เป็นคดียอมความได้ ทั้งนี้ในตอนแรกผู้เสียหายไม่ยอมจะไปแจ้งความตั้งแต่เกิดเรื่อง เพราะกลัวจะดำเนินคดีไม่ได้ อีกทั้งผู้ก่อเหตุยังเสนอเงินมาให้เรื่องจบไป 2-3 ครั้งก็ได้รับไว้ เนื่องจากโดนข่มขู่ว่า พ่อผู้ก่อเหตุใหญ่มาก

สำหรับเรื่องคลิปเสียงที่อ้างว่า เป็นขบวนการของพรรคก้าวไกลที่จะดิสเครดิตนั้น ยืนยันไม่รู้จักกับคนในพรรคก้าวไกล และก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยถ้าจะกลั่นแกล้งทางการเมือง หากผู้ก่อเหตุพยายามบีบบังคับข่มขู่เหยื่อ ก็จะไปยื่นเรื่องต่อศาลขอถอนการประกันตัว

ส่วนคนในพรรคการเมืองที่ผู้ต้องหาสังกัดอยู่ ยังไม่พบว่าเข้ามาให้การช่วยเหลือ แต่อยากเตือนไปถึงผู้ที่เตรียมให้การช่วยเหลือ หรือกำลังให้การช่วยเหลืออยู่ในขณะนี้ 

ด้านคดีความ ตอนนี้ยังไม่มีใครถอนแจ้งความ แต่บางคนไม่ให้ความร่วมมือต่อ วานนี้เขาควรจะไปที่ศาลเพื่อทำเรื่องค้านการประกันตัวผู้ต้องหาแต่เขาไม่ไป ขอไม่ระบุว่าเป็นใคร แต่ให้ดูว่าใครยังสู้ ใครเงียบไป

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ผู้ต้องหามีประวัติอาการทางจิตและประสาท จนอาจจะมีผลต่อรูปคดีนั้น เชื่อว่าผู้ก่อเหตุไม่มีประวัติการรักษาอาการทางจิต ไม่น่านำมาเป็นข้ออ้างในการต่อสู้คดี เพราะเขายังไปเป็นวิทยากรเวทีต่าง ๆ ได้ มีสติปกติดี เขาจะซื้อบริการก็ยังได้ แต่ดูว่ามีรสนิยมชอบคนที่ขัดขืน

ขณะที่ พลตำรวจตรี ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งภาพกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุไปให้กับกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อตรวจสอบว่าเป็นคลิปตัดต่อหรือไม่ และการสอบสวนพยานให้การไปในทิศทางเดียวกัน เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี มั่นใจว่าในคดีนี้ผู้ต้องหากระทำความผิดจริง

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า มีนายตำรวจพยายามเจรจากับผู้เสียหาย เพื่อให้ยุติบทบาททางคดี ซึ่งอาจผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวของศาล เรื่องดังกล่าว จากการตรวจสอบยังไม่พบพยานหลักฐานที่ชัดเจน มีเพียงคำกล่าวอ้างและกระแสข่าวเท่านั้น แต่หากมีพยานหลักฐานมายืนยันในภายหลัง ตำรวจก็พร้อมที่จะไปยื่นให้ศาลให้เพิกถอนการประกันตัวได้

ต่อมาในช่วงเย็นวันเดียวกัน พลตำรวจตรี ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมตำรวจ สน.ลุมพินี และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน นำหมายศาลอาญากรุงเทพใต้เข้าตรวจค้นห้องพักที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ในสุขุมวิทซอย 3 ซอยย่อยนานาเหนือ เขตวัฒนา เพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติม หลังมีเหยื่อสาวหลายราย อ้างว่าเป็นสถานที่ที่ถูกนายปริญญ์ ล่อลวงไปข่มขืนกระทำชำเรา หลังนัดไปทานอาหารที่ร้านอาหารชั้นดาดฟ้าในละแวกเดียวกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคอนโด ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปภายใน โดยให้รออยู่หน้าทางเข้าออกเท่านั้น ต่อมาแอนนา หนึ่งในผู้เสียหายได้เดินทางไปชี้จุดเกิดเหตุ เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี

โดยสรุปตอนนี้มีผู้เสียหายแจ้งความเอาผิดแล้ว 14 คน แบ่งเป็นคดีที่กรุงเทพฯ 12 คน คดีที่จังหวัดเพชรบุรี 1 คน และคดีที่จังหวัดเชียงใหม่ 1 คน


ส่งหน้านี้ให้เพื่อน