บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV เผยผลประกอบการไตรมาส 2/2565 (1 มกราคม 2565 – 31 มีนาคม 2565) ผลกำไรสุทธิส่วนของบริษัท อยู่ที่ 57 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 160% ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 3,718.6 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 270%
นายกำพล ปุญโสณี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV กล่าวว่า ในไตรมาส 2/2565 (1 มกราคม 2565 – 31 มีนาคม 2565) บริษัทฯ เริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจที่บริษัทฯ ได้เข้าไปลงทุนตามนโยบายการสร้างสมดุลของพอร์ตการลงทุน (Balancing Investment Portfolio) เพื่อลดการพึ่งพารายได้หลักจากธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งเพียงอย่างเดียว โดยการรับรู้รายได้จากการลงทุนในธุรกิจพลังงานผ่านการดำเนินงานในโรงไฟฟ้าที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู (SSUT) และที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง (PPTC) และการลงทุนในธุรกิจตู้แช่แข็งเชิงพาณิชย์ใน บริษัท พัฒนาอินเตอร์คูล จำกัด หรือ PIC
นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใน บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ Grand Unity ผ่านการโอนห้องชุดในโครงการที่พัฒนาแล้วเสร็จอย่าง ANIL Sathorn 12 ส่งผลให้ในไตรมาสนี้บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,718.6 ล้านบาท เปรียบเทียบกับรายได้รวมในไตรมาส 2/2564 ซึ่งอยู่ที่ 999.88 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตของรายได้มากกว่าร้อยละ 270 เมื่อเปรียบเทียบรายได้รวมในไตรมาส 2 ปี 2564 และปี 2565 โดยมีสัดส่วนรายได้มาจากการลงทุนในธุรกิจพลังงาน 2,235.4 ล้านบาท คิดเป็น 60% ของรายได้รวม รายได้จากการลงทุนในธุรกิจอุตสาหกรรม 705.1 ล้านบาท คิดเป็น 19% ของรายได้รวม และรายได้จากธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ และรายได้อื่นๆ รวม 778.1 ล้านบาท คิดเป็น 21% ของรายได้รวม
ปัจจุบันบริษัทฯ ยังมียอดขายของโครงการห้องชุดคอนโดมิเนียมรอรับรู้รายได้ (Backlog) ใน บจก. แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลลอปเม้นท์ ที่จะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2565-2566 ประมาณ 3,400 ล้านบาท นายกำพล กล่าว