ข่าวดึก 7HD – เมื่อต้นเดือนมกราคมมีคดีที่คนร้ายปีนเข้าไปขโมยโทรศัพท์มือถือกว่า 100 เครื่อง จาก ร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ย่านสายไหมหลบหนีไป ล่าสุดตำรวจจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้แล้ว แถมยังพบว่าพฤติการณ์ก่อนหน้านี้ก็ไม่ธรรมดา ใส่กางเกงในตัวเดียวในการก่อเหตุ จนถูกตั้งฉายาว่า “โจรกางเกงในโรคจิต”
ย้อนกลับไปเหตุการณ์เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ที่มีคนร้ายเป็นชายรูปร่างผอม ปีนเข้าไปทางช่องระบายอากาศ ห้องเก็บของที่อยู่ด้านข้างของร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แห่งหนึ่ง ย่านสายไหม เหตุการณ์นั้นคนร้ายกวาดเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายเป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นต่างๆ กว่า 100 เครื่อง หลบหนีไปได้
ตอนนั้นเจ้าของร้าน อยากให้ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ให้ได้ เพราะเพิ่งซื้อแฟรนไชน์มาเปิดร้านจำหน่ายสินค้าฯ ได้ไม่นาน ก็มาถูกคนร้ายเข้าไปลักเอาทรัพย์สินไปจนเกือบเกลี้ยงร้าน ทำเอาค่อนข้างหวาดระแวง กลัวว่าคนร้ายจะกลับมาก่อเหตุซ้ำรอยอีก
คนร้ายไม่ได้ก่อคดีแค่ร้านนี้ร้านเดียว แต่เมื่อปีที่แล้วเคยก่อเหตุกับร้านแฟรนไชน์แบรนด์นี้อีกหลายสาขา ที่สำคัญคือมีพฤติการณ์ประหลาด เวลาจะลงมือมักจะถอดเสื้อผ้าจนเหลือเพียงกางเกงในตัวเดียว ในการลงมือทุกครั้ง จนถูกตั้งฉายาว่า “โจรกางเกงในโรคจิต”
โดยคดีล่าสุดที่คนร้ายรายนี้ลงมือ เป็นเหตุการณ์ช่วงตี 3 ของวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ร้านจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครนายก ได้ทรัพย์สินไป 128 รายการ รวมความเสียหายกว่า 1.9 ล้านบาท คดีนี้ตำรวจ “ชุดลาดตระเวนออนไลน์” ของกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2 รวบรวมพฤติการณ์ของคนร้ายจนพบว่า มีการวางแผนในการลงมือค่อนข้างแยบยล คือก่อนลงมือ จะมีการศึกษาเส้นทางก่อเหตุ และหลบหนีเป็นอย่างดี เพื่อให้ดูเหมือนว่าคนก่อเหตุเป็นคนในพื้นที่ หลังก่อเหตุจะลักเอากล้องวงจรปิดและเครื่องเซิร์ฟเวอร์ไปด้วย เมื่อได้ทรัพย์สินมาแล้ว ก็นำไปแยกเก็บในโรงแรมย่านรามคำแหงที่เปิดห้องพักไว้ ส่วนตัวเองจะกลับไปพักที่คอนโดมิเนียม ที่ย่านลาดพร้าว
หลังได้ข้อมูลแหล่งกบดานค่อนข้างชัดเจนแล้ว จึงนำกำลังเข้าจับกุมคนร้ายรายนี้ได้ ขณะหลบอยู่ในห้องน้ำกับเพื่อนชายอีกคน
ซึ่งจากการตรวจค้น ตำรวจพบหลักฐานโทรศัพท์มือถือรุ่นต่าง ๆ แท็ปเล็ต และอุปกรณ์เสริม จากที่พักในคอนโดมิเนียม และโรงแรมย่านรามคำแหง รวม 149 รายการ
ขณะที่สอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับว่า ได้ตระเวนลงมือก่อเหตุมาแล้วหลายพื้นที่จริง สาเหตุที่เลือกร้านแฟรนไชน์นี้ เพราะชอบกล้วยและชอบสีเหลือง ที่ถอดเสื้อผ้าจนเหลือกางเกงในตัวเดียวก่อนเข้าไปขโมยของ เพราะทำให้เกิดความรู้สึกมั่นใจ เป็นตัวของตัวเอง สาเหตุที่ตั้งใจขโมยไปแต่โทรศัพท์มือถือ เพราะมีความฝังใจสมัยเด็กที่เห็นเพื่อมีโทรศัพท์แต่ตนเองไม่มี เมื่อขโมยได้มาแล้ว จะนำบางส่วนไปขายเพื่อเอาเงินไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และจะนำโทรศัพท์บางส่วนไปแจกให้กับคนเร่ร่อนละแวกสนามหลวงและหัวลำโพง หรือไปแจกให้กับคนที่อยู่ในจังหวัดนราธิวาส ซึ่งก็ไม่ได้แจกแค่โทรศัพท์มือถืออย่างเดียว ยังแบ่งปันเงินส่วนหนึ่งให้ไปด้วย เพราะอยากทำตัวเหมือนโจรโรบินฮูด ส่วนที่ลักเอากล้องวงจรปิดและเครื่องเซิร์ฟเวอร์ของแต่ละร้านไป เพราะเคยก่อเหตุแล้วตกเป็นข่าว จนถูกตั้งฉายาว่า “โจรกางเกงในโรคจิต” จึงตัดสินใจขโมยไปด้วยเพื่อตัดปัญหา
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหา พบว่าก่อเหตุไม่ต่ำกว่า 9 คดี ได้แก่ สภ.เมืองยะลา, สภ.หาดใหญ่, สภ.เมืองพัทลุง, สภ.เมืองนครศรีธรรมราช, สภ.เมืองหนองบัวลำภู, สภ.เมืองอุบลราชธานี, สภ.หัวหิน และ สน.สายไหม ซึ่งหลังจากนี้ จะให้แต่ละท้องที่ทำการขออายัดตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นักบุญแบบนี้ก็ได้เหรอ จะทำบุญก็ต้องหามาด้วยทรัพย์ของตัวเองสิคะ ทำแบบนี้ เขาเรียกว่าขโมย ยังไงก็ต้องถูกดำเนินคดี ติดคุกนะคะเพราะเป็นคดีอาญา