เนื่องจากช่วงเวลานี้ประเทสของเราได้เผชิญหน้ากับวิกฤตที่หลากหลายๆ ทำให้หลายๆท่านที่ผ่านมาได้เรียนรู้และคิดอยากที่จะหาวิธีเก็บเงินเพิ่มไว้เผื่อใช้สำรองในอนาคต แต่คิดตรงที่ยังไม่แน่ใจในเรื่องการลงทุน ดังนั้นวันนี้ทาง moneyguru จะมาแนะนำแนวทาง ลงทุนอะไรดี ที่ความเสี่ยงน้อย แต่ได้กำไรชัวร์! รวมทั้ง ขั้นตอนในการเรียงลำดับความสำคัญในการ จัดการด้านการเงิน อีกด้วย…
ลงทุนอะไรดี ที่ความเสี่ยงน้อย แต่ได้กำไรชัวร์!
ก่อนที่ท่านจะไปดูแนวทางการลงทุนสิ่งแรกที่ท่านควรรู้นั้นคือ การเรียงลำดับความสำคัญในการ จัดการด้านการเงิน โดยเราจะเรียงลำดับ ที่ทา่นควรให้ความสำคัญคือ ความสำคัญของ มูลค่าเงินตามเวลา เรียกง่ายๆ ก็คือ เงินที่ถืออยู่ในวันนี้ ถ้าปล่อยให้เวลาผ่านไปก็ยิ่งมีมูลค่าลดลง ดังนั้นหากท่านไม่รู้จักหาวิธีเพิ่มผลตอบแทน เงินก็จะมีค่าน้อยลง เช่น วันนี้ค่าอาหาร หรือค่าเดินทาง ค่าครองชีพต่างๆ ที่ยิ่งผ่านไปยิ่งแพงขึ้น แต่เงินที่ท่านถืออยู่ไม่เคยเพิ่มตามนั่นเอง
ดังนั้นหลักการง่ายๆ นั้นคือ ท่านควรรู้จักนำเงินไปลงทุนเพื่อได้รับผลตอบแทน มูลค่าของเงินก็จะเพิ่มขึ้น และยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไรก็ยิ่งเพิ่มขึ้นมากเท่านั้นเหมือนกัย 3 ตัวแปรที่ทำให้เงินของเราสามารถงอกเงยเพิ่มขึ้นดังนี้
หลักการทำให้เงินงอกเงย
- เงินเริ่มต้นที่เรามี : สำหรับจำนวนเงินนี้ยิ่งมากเท่าไรยิ่งดีเท่านั้น เพราะนั่นแปลว่าท่านจะไม่ต้องเหนื่อยมากในการทำตามเป้าหมาย เช่น ถ้าท่านมีเงินเริ่มต้นสัก 5 ล้าน ได้ผลตอบแทนสัก 10-15% ต่อปี ก็ตกปีละ 5 แสนบาท ก็เท่ากับว่าเงินที่อยู่ในมือท่านเพิ่มขึ้นมาละ
- ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุน : สำหรับผมตอบแทนยิ่งผลตอบแทนมากเท่าไร จำนวนเงินก็เพิ่มขึ้นไว และใช้ระยะเวลาน้อยลง เช่น ถ้าเราลงทุนได้รับผลตอบแทน 50% ต่อปี จากแค่มีเงิน 5 ล้านบาทก็สามารถลงทุนได้เงินกลับมาตั้ง 2 ล้านบาท เป็นต้น
- ระยะเวลาที่ใช้ในการลงทุน :เวลาก็เป็นสิ่งสำคัญเพราะช่วยให้ท่านได้ ผลลัพธ์ เร็วขึ้น เช่น ในกรณีที่มีเงินอยู่กับตัวเป็นล้านการที่ท่านจะได้ผลตอบแทนก็จะเร็วกว่าท่านที่มีเงินลุงทุนน้อย แต่ถึงท่านที่มีเงินเงินน้อย แต่ถ้าท่านมีเวลานานสัก 8 ปี เพียงแค่เราค่อยๆ นำเงิน 5,000 บาทต่อเดือนไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ได้รับผลตอบแทน 15% ต่อปี เราก็มีเงิน 1 ล้านบาทได้เช่นเดียวกัน
ดังนั้น ถ้าถามว่าตัวไหนสำคัญที่สุดใน 3 ตัวนี้ คำตอบคือทุกตัวสำคัญหมดครับ แต่ตัวหนึ่งที่เราทุกคนสามารถควบคุมและทำได้ดีที่สุดนั้นคือ “ระยะเวลา” เพราะสามารถควบคุมและเริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้
แนวทางลงทุนเปลี่ยนเงินเก็บก้อนเล็ก ให้กลายเป็นเงินทุนก้อนใหญ่
การทำให้เงินงอกเงย สำหรับท่านที่ไม่มีความรู้ด้านการเงินเลย วันนี้เราจะมาให้คำแนะนำสำหรับท่านที่ยังสงสัยอยู่ว่า ควรจะนำเงินเก็บที่มีอยู่นั้นไปลงทุนอะไรได้บ้าง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้…
เงินฝาก
เป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็ก เป็นทางเลือกแรกสำหรับการลงทุนที่คนส่วนใหญ่จะคิดว่าปลอดภัย และให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ ถ้าเป็นสมัยก่อนก็น่าจะถูกต้อง เพราะก่อนหน้านั้นยังไม่มีกฎหมายที่ออกมาคุ้มครองเงินฝาก แถมดอกเบี้ยก็ยังสูงมาก เพราะฉะนั้นเงินฝากธนาคารจึงเป็นที่นิยมมาตั้งแต่ในอดีต แต่ปัจจุบันแล้วไม่ใช่เลย เงินฝากธนาคารให้ผลตอบแทนที่น้อยมาก แถมระยะเวลาลงทุนก็นานมากถึงจะได้ผลตอบแทนที่ต้องการ แต่ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยระดับหนึ่งก็ว่าได้
ทองคำแท่ง
การลงทุนในทองคำแท่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สร้างผลตอบแทนดีเช่นกัน คนไทยส่วนใหญ่คุ้นเคยกับทองรูปพรรณ แต่ทองคำแท่งเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนให้ความสนใจมากกว่า เนื่องจากมีค่าบล็อกที่ถูกกว่าค่ากำเหน็จทองรูปพรรณ และราคารับซื้อของทองคำแท่งยังถูกหักน้อยกว่าทองรูปพรรณด้วย แต่อย่างไรก็ตาม การลงทุนในทองคำแท่ง คุณอาจจะต้องรับความเสี่ยงในเรื่องของราคาทองที่ขึ้นและลงอยู่บ้าง
กองทุนรวม
หากใครที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นมากนักก็ควรหันไปมองการลงทุนด้วยกองทุนรวมดีกว่า ยิ่งเป็นนักลงทุนมือใหม่ด้วยแล้วลองหันไปมองพวกกองทุนรวมตราสารหนี้ หรือ ตราสารตลาดเงิน ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ และการลงทุนแบบนี้ ใช้เงินทุกเริ่มต้นเพียง 1,000-2,000 บาท ก็สามารถลงทุนได้ แต่เนื่องจากเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ ดังนั้นผลตอบแทนที่ได้รับก็จะน้อยตามเงินลงทุนทั่วไปนั่นเอง คำแนะนำท่านควรศึกษาเรื่องความเสี่ยงและการลงทุนเพิ่มเติม เพราะกองทุนรวมดีๆ นั้น สามารถสร้างผลตอบแทนได้ตั้งแต่ 10-15% ต่อปีเลย
ตราสารหนี้
เช่น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้เอกชน ตั๋วเงินคลัง ฯลฯ เป็นการลงทุนอีกอย่างที่คล้ายกับเงินฝากธนาคารแต่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า โดยการลงทุนในกลุ่มนี้ก็ให้ผลตอบแทนสูงขึ้นกว่าเงินฝากธนาคารเพียงเล็กน้อย แต่ก็ยังมีความเสี่ยงหากเราลงทุนในหุ้นกู้เอกชนที่มีฐานะหรือเครดิตไม่ค่อยดี โอกาสที่เราจะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดก็มีอยู่ได้ แต่สำหรับการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐก็พอเป็นหลักประกันได้อย่างหนึ่งว่าเงินลงทุนของเรายังอยู่ครบแน่นอน
ลงทุนแบบ DCA (Dollar Cost Average)
หากใครที่มั่นใจในตัวเองว่า ตนเองนั้นมีวินัยทางการเงินที่ค่อนข้างมาก ก็ลองมาลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน หรือที่รู้จักกันว่า DCA (Dollar Cost Average) ครับ เป็นวิธีที่ลงทุนในหุ้นหรือกองทุนรวมเป็นจำนวนเงินเท่ากันในทุก ๆ เดือน คล้ายกับการฝากเงินประจำ เพียงแต่จะมีความเสี่ยงของตลาดหลักทรัพย์แอยู่บ้าง ซึ่งหากคุณศึกษาการลงทุนอย่างดี เลือกลงทุนกับธุรกิจที่มีโอกาสเติมโต โอกาสจะสร้างผลกำไรก็เป็นเรื่องง่าย
อสังหาริมทรัพย์
ที่เห็นกันส่วนใหญ่ในตอนนี้ก็น่าจะเป็น การลงทุนในคอนโดมิเนียม ที่มีทำเลติดรถไฟฟ้า ถ้าเป็นในเมืองก็ราคาสูงมาก แต่ถ้าออกนอกเมืองมาหน่อยแต่มีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านก็อาจจะได้ราคาที่พอรับได้ ส่วนมากก็จะจ่ายเงินจองห้อง แล้วปล่อยให้คนอื่นมาเช่า โดยเอาเงินค่าเช่ามาจ่ายค่างวดให้กับธนาคาร แต่เวลาที่เราจะตั้งราคาค่าเช่าห้องอย่าลืมคิดให้ถี่ถ้วนว่าเมื่อได้ค่าเช่ามาแล้วจะต้องครอบคลุมในเรื่องค่างวดพร้อมดอกเบี้ยรายเดือนด้วยนะครับ เพราะยังมีค่าใช้จ่ายส่วนกลางของโครงการ หรือค่าซ่อมแซมจุกจิก เป็นต้น และที่สำคัญการเอาคอนโดฯให้คนอื่นเช่าเราอาจจะต้อง Screen บ้าง หรือให้บริษัทนายหน้าหาคนเช่าให้เรา เพื่อเป็นการการันตีรายได้ที่เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ
เล่นหุ้น
เป็นทางเลือกที่นิยมกันมากขึ้นทุกที เพราะบางคนจะบอกว่าลงทุนในหุ้นจะได้ผลตอบแทนเร็ว ได้ผลตอบแทนสูง ซึ่งบางคนลงทุนเพียงปีเดียวแต่ได้ผลตอบแทนถึง 10-15% เลยก็มี เป็นเพราะสามารถวิเคราะห์ตลาดได้เก่ง มองตลาดเป็น วิเคราะห์ทั้งข้อมูลพื้นฐานและข้อมูลทางเทคนิคเป็น ทำให้สามารถเลือกซื้อขายหุ้นแต่ละตัวได้ถูกเวลา ก็เลยทำให้มีผลตอบแทนกลับมาสูง แต่การลงทุนในหุ้นสิ่งที่เราจะยินบ่อยๆ คือ High Risk High Return หมายความว่าลงทุนมากได้มาก แต่โอกาสที่จะเสียก็มีมากด้วยเช่นกัน
จากบทความด้านบนจะเหป็นว่าทางเลือกที่จะทำให้เงินเก็บของท่านงอกเงยนั้นมีหลายวิธี มาก ตั้งแต่ มีความเสี่ยงน้อย แต่ได้กำไรชัวร์ หรือ มีความเสี่ยงมาก แต่ก็ได้กำไรมากเช่นกัน ดังการเลือกทางที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของท่านจึงเปผ็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพราะฉะนั้นการศึกษาหาข้อมูลสำหรับการลงทุนจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว ส่วนเรื่องของ เงินเริ่มต้น ถ้าใครยังมีน้อยอยู่อย่าเพิ่งท้อใจไป ท่านค่อยเร่งทยอยเพิ่มความสามารถของเราให้มากขึ้น เพื่อสร้างรายได้ให้สูงขึ้นตามความเชี่ยวชาญของท่านในอนาคต
ก่อนจะจากกันสำหรับท่านไหนที่ต้องการสินเชื่อวันนี้เรามี สินเชื่อกู้ง่ายซิตี้แบงก์ ดอกเบี้ยต่ำสุด 9.99% ร ที่มาพร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษต่ำ พร้อมให้วงเงินกู้สูงไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือผู้ค้ำประกันและสามารถรวมหนี้หลายก้อนไว้ในที่เดียว ท่านที่สนใจสามารถสมัครได้ที่ลิงค์นี้เลย สินเชื่อบุคคลซิตี้แบงก์
บทความแนะนำ
- 6 บัตรกดเงินสดอนุมัติ 30 นาที สำหรับคนเงินเดือนน้อย
- 4 บัตรกดเงินสดเงินเดือน 9000 บาท ที่ใครก็สมัครได้! (อัปเดตปี 2565)