การบินไทย และ MQDC ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ ร่วมผลักดันธุรกิจอสังหาฯและการท่องเที่ยวไทย

ส่งหน้านี้ให้เพื่อน

การบินไทย และ MQDC ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ ร่วมผลักดันธุรกิจอสังหาฯและการท่องเที่ยวไทย

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สายการบินแห่งชาติ และบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ประกาศ ความร่วมมือเพื่อพลิกฟื้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และการท่องเที่ยว หวังกระตุ้นภาคธุรกิจสำคัญของระบบ เศรษฐกิจไทย ให้กลับมาขยายตัวอีกครั้ง หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ผ่อนคลายลง

ทั้งนี้ การบินไทย และ MQDC จะร่วมมือในด้านการตลาดภายใต้กรอบความร่วมมือ 4 ด้าน เพื่อให้ทุกฝ่าย ที่เกี่ยวข้องได้รับประโยชน์ ทั้งในมุมของพันธมิตรคู่ค้า และลูกค้าของทั้งสองฝ่าย โดยมีจุดประสงค์ในการสร้างสรรค์กิจกรรมทางการตลาดเป็นไปเพื่อแสวงหาโอกาสให้ลูกค้าปัจจุบัน และลูกค้าในอนาคตที่เป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของทั้ง 2 ธุรกิจให้ได้รับสิทธิประโยชน์จากการทำกิจกรรมทางการตลาดร่วมกัน

ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกัน จัดกิจกรรมและงานเทศกาลต่างๆ ตลอดทั้งปี โดยทางโครงการ The Forestias by MQDC ในฐานะที่เป็น “Happiness Destination” จะร่วมกับ โครงการ “The Experience” ของ Royal Orchid Plus การบินไทย ส่งมอบประสบการณ์แห่งความสุขให้กลุ่มลูกค้าทุกช่วงวัย ได้มีโอกาสทำกิจกรรมร่วมกัน เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว

นอกจากนี้ ความร่วมมือครั้งนี้ยังครอบคลุมถึงการร่วมกันขยายฐานลูกค้าของทั้ง 2 องค์กร ทั้งกลุ่มลูกค้าชาวไทยในต่างประเทศ และชาวต่างชาติที่สนใจลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยการบินไทยมอบบัตรโดยสารราคาพิเศษ (Corporate Fare) เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางเพื่อมาท่องเที่ยวและลงทุน ทั้งนี้ MQDC ยังพิจารณามอบสิทธิประโยชน์พิเศษให้กับลูกค้าโครงการที่เดินทางมากับการบินไทยอีกด้วย

การบินไทย และ MQDC จะ Co-Creation เปิดตัวแคมเปญด้านการตลาดร่วมกัน เพื่อส่งมอบสิทธิประโยชน์ “Time to Gold” ระดับบัตรทอง Royal Orchid Plus มูลค่า 350,000 บาท ให้กับลูกค้าของโครงการอสังหา ของ MQDC ที่มีการจองและทำสัญญาตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนดใน 2 โครงการที่ตั้งอยู่ใน The Forestias คือ The Aspen Tree และ Mulberry Grove The Forestias Villas โดยจะเริ่มแคมเปญนี้ วันที่ 1 สิงหาคม – 31 ธันวาคม 2565

นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง รักษาการแทน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า การดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจที่หลากหลาย เพื่อร่วมมือกันขยายช่องทางทางธุรกิจให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น บริษัท การบินไทยฯ มีความยินดีที่ได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ในครั้งนี้ ซึ่ง MQDC ถือว่าเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศ ที่จะมาส่งเสริมการดำเนินการด้านการตลาดของการบินไทยและจะเป็นประโยชน์ต่อกัน ในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระดับพรีเมียม พร้อมมอบสิทธิประโยชน์มากมายให้แก่ลูกค้าของทั้ง 2 บริษัท การบินไทยมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์เดินทางที่แตกต่างเพื่อให้ลูกค้าทุกท่านประทับใจ ด้วยอัตลักษณ์ไทย พร้อมบริการใหม่ในรูปแบบที่หลากหลายและเทคโนโลยีที่ให้ความสะดวกสบายครบครัน ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่ชื่นชอบการเดินทางและมีไลฟ์สไตล์ ลูกค้าของ MQDC เป็นลูกค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่มี ศักยภาพสูงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สามารถตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี ช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ รวมทั้งการขยายฐานลูกค้าด้านอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยและต่างประเทศ ทั้งในเอเชียและทวีปอื่นๆ ในอนาคต นับว่าความร่วมมือนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม อีกทางหนึ่ง กระตุ้นการเดินทาง และตอบรับนโยบายการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ

สำหรับสิทธิประโยชน์ที่การบินไทยเตรียมไว้เพื่อมอบให้ลูกค้า MQDC เป็นพิเศษ เพื่อแทนคำขอบคุณ เช่น บัตรโดยสารราคาพิเศษสำหรับลูกค้าของ MQDC ในต่างประเทศ ที่สนใจเดินทางมาชมอสังหาริมทรัพย์ ในโครงการต่างๆของ MQDC อันจะเป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจของทั้ง 2 องค์กร, แพ็กเกจ “Time to Gold” เครดิตเงินสำหรับการชำระค่าบัตรโดยสารมูลค่า 350,000 บาท ที่สามารถแลกซื้อบัตรโดยสารของการบินไทยและไทยสมายล์ได้ พร้อมสถานภาพสมาชิกบัตรทอง รอยัล ออร์คิด พลัส นอกจากนี้ สมาชิก รอยัล ออร์คิด พลัส สามารถเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษกับโครงการต่างๆ ของ MQDC แบบเอ็กซ์คลูซีพ และกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจ อีกมากมาย

นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ เปิดเผยว่า MQDC มีหลักการดำเนินธุรกิจที่ตั้งอยู่บน ‘ความแตกต่าง’ และ ‘สร้างความเปลี่ยนแปลง’ และมีเป้าหมาย (Purpose Driven) ในการขับเคลื่อนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ชัดเจน คือ เพื่อให้สังคม ความเป็นอยู่ของคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อมดีขึ้นหรือ For All Well-Being ความร่วมมือกับพันธมิตรสำคัญอย่างการบินไทยจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนในระบบ เศรษฐกิจไทยอย่างมีนัยยะสำคัญ และเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ของ MQDC ได้ตรงตามเป้าหมาย

“สืบเนื่องจากการผนึกพันธมิตรในด้านการตลาด (Strategic Partner) ระหว่างบริษัทชั้นนำของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่าง MQDC และ ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างการบินไทย จะเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่ช่วยให้ภาคเศรษฐกิจโดยรวมกลับมาฟื้นตัวได้โดยเร็ว นี่จึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สอดรับกับพันธกิจของบริษัทได้เป็นอย่างดี” นายวิสิษฐ์กล่าว

“การที่เราเป็นพันธมิตรกัน ต่างนำจุดเด่นทางธุรกิจมาร่วมกันต่อยอดถือเป็นการทำงานที่ช่วยทำให้เกิด แรงกระเพื่อมที่น่าสนใจในภาคธุรกิจ และทำให้ลูกค้าได้รับประโยชน์ (Benefit) เพิ่มขึ้น อีกทั้ง ยังตอบโจทย์ ของเรา ที่ต้องการมอบสังคมการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพให้ผู้พักอาศัยใช้ชีวิตในทุกกิจกรรมได้อย่างมีความสุข ได้รับความสะดวกสบายทั้งขณะที่อยู่ในที่พัก และนอกที่พัก รวมทั้งได้รับบริการที่ได้มาตรฐานในทุกครั้งที่ต้องการเดินทาง ในขณะเดียวกัน ลูกค้าของการบินไทย ก็มีโอกาสในการเข้าถึงโครงการต่างๆ ภายใน เดอะฟอเรสเทียส์ ซึ่งในอนาคตอันใกล้จะมีทั้งแคมเปญและกิจกรรม เรามั่นใจว่าจะสร้างความแตกต่างที่น่า จับตามอง” นายวิสิษฐ์ กล่าว

ปัจจุบัน MQDC เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เน้นนำเทคโนโลยีขั้นสูงและงานวิจัยเชิงลึกจากศูนย์วิจัยภายในกลุ่ม MQDC รวม 7 แห่งพัฒนาโครงการในสองรูปแบบด้วยกันคือ Theme Project และ Mixed Use ซึ่งแม้ในช่วงที่เกิดวิกฤติการณ์โควิด-19 ทาง MQDC ยังสามารถเดินหน้าก่อสร้างและ เปิดขายที่พักอาศัยในโครงการขนาดใหญ่มูลค่าโครงการสูงถึง 125,000 ล้านบาท เดอะ ฟอเรสเทียส์” (The Forestias By MQDC) ได้ตามกำหนด รวมทั้งยังได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาด โดยขณะนี้มียอดขายแล้วกว่า 2 หมื่นล้านบาท โครงการนี้ยังถือเป็นโครงการเมืองแห่งแรกของโลกที่ได้รับการออกแบบอย่างครบถ้วนในทุกมิติ ตามเป้าหมายสร้างสังคมแห่งความสุขให้กับทุกชีวิต บนขนาดพื้นที่ 398 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม. 7

ธุรกิจอสังหามีมูลค่าตลาดประมาณ 8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบจำนวนมาก เกิดการจ้างงานและรายได้เพิ่มขึ้น พร้อมไปกับการเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมอื่น และอสังหาประเภทที่อยู่อาศัยมีสัดส่วนถึง 2 ใน 3 ของมูลค่าตลาดรวม ในประเทศไทย



ส่งหน้านี้ให้เพื่อน