นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า(พค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ประจำเดือนกรกฎาคม 2565 มีธุรกิจจัดตั้งใหม่ จำนวน 5,858 ราย เพิ่ม 3% เทียบเดือนเดี่ยวกันปีก่อน และลดลง 12 % เทียบเดือนมิถุนายนปีนี้ โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียน 29,111.36 ล้านบาท เทียบเดือนเดียวกันปีก่อนเพิ่มเท่าตัว และเพิ่ม 40% เทียบเดือนก่อนหน้าปีนี้ โดยธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร โดยช่วงทุนมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 4,060 ราย คิดเป็น 69.31%
นายทศพล กล่าวต่อว่า ธุรกิจเลิกกิจการเดือนกรกฎาคม2565 มีจำนวน 1,543 ราย เทียบเดือนเดียวกันปีก่อน เพิ่ม 35% และเทียบเดือนมิถุนายนปีนี้ เพิ่ม 5% โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกกิจการ 7,148.05 ล้านบาท เพิ่มจากเดือนเดียวกันปีก่อน 72% และเพิ่ม 38% เทียบเดือนมิถุนายนปีนี้ ธุรกิจเลิกกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกกิจการ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 1,124 ราย คิดเป็น 72.85%
ทำให้ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ เดือนกรกฎาคม 2565 อยู่ทั่วประเทศ จำนวน 846,797 ราย มูลค่าทุน 20.32 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 203,402 ราย บริษัทจำกัด 642,036 ราย และบริษัทมหาชนจำกัด ธุรกิจส่วนใหญ่มีช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 501,851 ราย คิดเป็น 59.26% รวมมูลค่าทุน 0.44 ล้านล้านบาท คิดเป็น 2.17%
สำหรับการลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าวเดือนกรกฎาคม 2565มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจจำนวน 39 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจ 16 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ 23 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 3,675 ล้านบาท เป็นผลให้ในปี 2565 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจ 323 ราย เพิ่มขึ้น 16% เงินลงทุน 73,624 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด 3 สัญชาติแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 11 ราย เงินลงทุน 2,734 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่ สิงคโปร์ 7 ราย เงินลงทุน 91 ล้านบาท และสหรัฐอเมริกา 5 ราย เงินลงทุน 330 ล้านบาท
นายทศพล กล่าวว่า ยอดการจดทะเบียนตั้งใหม่ 7 เดือนแรกปี 2565 มีจำนวน 46,159 ราย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเล็กน้อยคิดเป็น 1.12% แม้ปี 2565 จะมีจำนวนธุรกิจเลิกมากกว่าปี 2564 ที่มีจำนวนเลิกกิจการ 7,552 ราย เพิ่ม 24.42% แต่เนื่องจากปี 2564 มีการการแพร่ระบาดของโควิด-19 กระจายเป็นวงกว้าง และมีการจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เข้มงวด จึงเป็นสถานการณ์ที่ไม่ได้อยู่ในสภาวะปกติ อันส่งผลให้การเลิกธุรกิจปี 2564 มีการชะลอตัวลงดูสถานการณ์ของประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลาย ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการได้มากขึ้น มีการเปิดให้บริการสถานบันเทิงทั่วประเทศในช่วงเดือนกรกฎาคม การปรับลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ประกอบกับสถานการณ์การส่งออกและการท่องเที่ยวที่ยังคงมีแนวโน้มขยายตัว ส่งผลให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ในเดือนกรกฎาคมปรับตัวดีขึ้น
“จากข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ของนิติบุคคล 3 ปีย้อนหลัง หรือ 2562-2564 พบว่า จำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่จะมีแนวโน้มลงลงในช่วงปลายปี และจากปัจจัยหนุนต่างๆ กรม จึงคาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ตลอดทั้งปี 2565 อยู่ที่ 68,000 – 72,000 ราย “ นายทศพล กล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่