พณ.เผยมิ.ย.บริษัทเปิดใหม่เพิ่ม9% ปิดตัวสูง39% ธุรกิจมองครึ่งปีหลังฟื้นตัว ดันตั้งใหม่7.5หมื่นราย

ส่งหน้านี้ให้เพื่อน

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนมิถุนายน 2565 จำนวน 6,661 ราย เพิ่มขึ้น 13% จากเดือนพฤษภาคมปีนี้ และเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียน 20,744.36 ล้านบาท ธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 612 ราย คิดเป็น 9% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 432 ราย คิดเป็น 6% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 276 ราย คิดเป็น 4% ตามลำดับ โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มี 4,553 ราย คิดเป็น 68.35% สำหรับ

ธุรกิจจัดตั้งใหม่ครึ่งปีแรก 2565 มีจำนวน 40,301 ราย ลดลง 2% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากเดือนมีนาคม 2564 มีจำนวนการจัดตั้งสูงที่สุดในรอบ 7 ปี อีกทั้งจำนวนการจัดตั้งใหม่ครึ่งปีแรก 2565 สอดคล้องกับกรมคาดไว้ประมาณ 40,000 ราย มีมูลค่าทุนจดทะเบียน280,604.79 ล้านบาท ธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 3,992 ราย คิดเป็น 10% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 2,165 ราย คิดเป็น 5% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 1,388 ราย คิดเป็น 3% ตามลำดับ โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 28,972 ราย คิดเป็น 71.89%

นายทศพล กล่าวต่อว่า ธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนมิถุนายน 2565 มีจำนวน 1,463 ราย เพิ่มขึ้น 39% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกกิจการ 5,168.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70% ธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 133 ราย คิดเป็น 9% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 71 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจการขนส่งและขนถ่ายสินค้ารวมถึง คนโดยสาร 39 ราย คิดเป็น 3% ตามลำดับโดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 1,051 ราย คิดเป็น 71.84% ส่งผลธุรกิจเลิกประกอบกิจการครึ่งปีแรก 2565 มีจำนวน 6,009 ราย เพิ่มขึ้น 22 % มีมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกกิจการ 58,511.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92% ธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 610 ราย คิดเป็น 10% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 283 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 175 ราย คิดเป็น 3% ตามลำดับ โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 4,308 ราย คิดเป็น 71.69%

” ต้นทุนด้านพลังงานที่สูงขึ้น ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง ค่ากระแสไฟฟ้า และก๊าซหุงต้ม จากราคาสินค้าใน กลุ่มพลังงาน ทำให้ต้นทุนสินค้าและบริการ รวมถึงค่าโดยสารสาธารณะสูงขึ้น ส่งผลโดยตรงต่อผู้บริโภค และทำให้ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจยังปรับตัวเพิ่มขึ้น จากกิจกรรม ทางเศรษฐกิจในหลายภาคส่วนที่เริ่มมีการฟื้นตัว จำนวนนักท่องเที่ยวที่กลับมาทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ ที่เริ่มความคลายกังวลต่อโรคโควิด-19 ส่งผลให้การดำเนินชีวิตของประชาชนเริ่มกลับสู่สถานการณ์ปกติ โดยข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ของนิติบุคคล 3 ปีย้อนหลัง ( 2562-2564) พบว่า จำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งในช่วงครึ่งปีแรก จะสูงกว่าจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งในช่วงครึ่งปีหลังของทุกปี และจากปัจจัยต่างๆ กรมคาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั้งปี 2565 อยู่ที่ 70,000 – 75,000 ราย ” นายทศพล กล่าว

QR Code LINE @Matichon

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก

Line @Matichon ได้ที่นี่

LINE @Matichon


ส่งหน้านี้ให้เพื่อน