ย้อนเส้นทาง CEO แห่ง “ออลล์ อินสไปร์ฯ” ก่อนผิดนัดจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้

ส่งหน้านี้ให้เพื่อน

จากเหตุการณ์ล่าสุด เมื่อ บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ ALL สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อวงการอสังหาริมทรัพย์ ด้วยเหตุที่ได้ร่อนหนังสือชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กรณีผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ ALL244A ที่ครบกำหนดชำระดอกเบี้ยงวดที่ 5 จำนวน 10,651,495.04 บาท ในวันที่ 3 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา

สำหรับสาเหตุหลักที่ทางด้าน ธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ ALL ได้ชี้แจงไว้ในหนังสือที่ได้แจ้งไว้ระบุถึงสาเหตุของการผิดนัดชำระดอกเบี้ยว่า เนื่องจากบริษัทขาดสภาพคล่อง กระแสเงินสดหมุนเวียนไม่เพียงพอ จึงทำให้เกิดการผิดนัดชำระดอกเบี้ย

ทั้งนี้หากย้อนรอยกลับไปดูความเป็นมาเป็นไปของผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รายนี้นั้น แรกเริ่มได้จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัดตามกฎหมายไทยเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2556 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนา อสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยโดยเริ่มจากประเภทคอนโดมิเนียม ภายใต้ชื่อโครงการ “The Excel” และ ได้เปิดโครงการใหม่เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน 

นอกจากนี้ยังได้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภท คอนโดมิเนียมแบบ High Rise และ Low Rise ภายใต้ชื่อโครงการ “RISE” โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมแบบ Luxury Residence ภายใต้ชื่อโครงการ “Impression” และโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภททาวน์โฮม ภายใต้ชื่อโครงการ “The Vision”

จนเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2558 บริษัทฯ ได้ดำเนินการจดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ภายใต้ชื่อ บมจ. ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ที่วางเป้าหมายประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่องต่อไป จึงได้เตรียมความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อระดมเงินทุนสำหรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ในอนาคต 

วิถีทางการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เริ่มต้นในปี 2562 ด้วยราคาหุ้นไอพีโอที่ราคา 4.90 บาท และทำการซื้อขายเป็นวันแรกเมื่อ 8 พฤษภาคม 2562 ขณะที่ผลการดำเนินงานภายหลังจากการเข้าตลาดหลักทรัพย์ดูทรงแล้วน่าจะมีสามารถทำรายได้ได้อย่างต่อเนื่อง แต่ในปี 2563 ผลประกอบการกลับมามีแนวโน้มชะลอตัวลง เริ่มขาดทุนสุทธิต่อเนื่อง และเพื่อเพิ่มสภาพคล่องเพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้นั้น จึงได้เริ่มดำเนินการออกหุ้นกู้เพื่อเสริมสร้างสภาพคล่อง

สำหรับเส้นทางชีวิตของ “ธนากร ธนวริทธิ์” ต้องย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นอาชีพของตัวเองก่อนที่จะเริ่มต้นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์  โดยภายหลังเรียนจบชั้นมัธยมปลายแล้ว เขาได้เดินทางจากจังหวัดอุดรธานีมาหางานทำใน กทม. โดยอาศัยอยู่กับญาติพร้อมหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นเด็กล้างจานในโรงแรม

แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่อยากจะก้าวหน้าในอาชีพ จึงใช้ความพยายาม ความขยัน และเรียนรู้ ทำให้ได้เลื่อนขั้นเป็นเด็กเสิร์ฟ และก้าวสู่การเป็นผู้จัดการห้องอาหาร 5 ดาวในเวลาต่อมา

ต่อมา ด้วยความพากเพียรและมุ่งมั่น เมื่อมีโอกาสมากยิ่งขึ้น จึงได้เริ่มเส้นทางอาชีพในธุรกิจรีเทลกับองค์กรต่างๆ อย่าง บมจ.ซีพี ออลล์ หรือแม้แต่ร้านกาแฟสตาร์บัคส์ ซึ่งตัวเขาได้ดูแลเรื่องการขยายสาขา ในช่วงเวลาที่ ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เปิดสาขา 1 วันครึ่ง ต่อ 1 สาขา

ดังนั้นเขาจึงได้มีโอกาสศึกษาเรื่องทำเลอย่างหนัก อีกทั้งยังมองเห็นช่างทางธุรกิจจากที่ได้เห็นสถานที่จริง ว่าพื้นที่แบบไหนที่คนระดับแมสจะเข้าถึง เดินผ่าน และซื้อสินค้าได้ทุกวัน 

ไม่เพียงเท่านั้น ธนากร ยังได้นำความรู้นี้ไปพัฒนาต่อยอด จนมาเป็นนักลงทุนคอนโดมิเนียมเอง แบบซื้อมาขายไป รวมทั้งปล่อยเช่า จนกระทั่งมั่นใจว่า ประสบการณ์ของตัวเองเพียงพอ จึงตั้งบริษัทเพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของตัวเอง โดยหยิบเอาความแม่นยำเรื่องทำเล ความรู้ใจนักลงทุน และ Passion ของตัวเอง จนกลายมาเป็น ALL ดังปัจจุบัน

ปัจจุบัน บมจ. ออลล์ อินสไปร์ฯ มีบริษัทย่อย 5 บริษัท ประกอบด้วย

1.Thai D บริษัทฯ ลงทุนในสัดส่วนการถือหุ้น 100% จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัดตามกฎหมายไทยเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2559 เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการเป็นตัวแทนขายและนายหน้าขายอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มบริษัท และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายอื่น ในตลาดต่างประเทศ เช่น จีน สิงคโปร์ ไต้หวัน และฮ่องกง เป็นต้น

2.RISE บริษัทฯ ลงทุนในสัดส่วนการถือหุ้น 100% จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัดตามกฎหมายไทย เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2559 เพื่อประกอบธุรกิจลงทุนและซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างแล้วเสร็จโดย ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่น ภายใต้ชื่อ “Rise Venture”

3.ALL Prop บริษัทฯ ลงทุนในสัดส่วนการถือหุ้น 99% จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัดตามกฎหมายไทย เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2556 เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการเกี่ยวกับการบริหารจัดการนิติบุคคลอาคารชุด ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯ

4.ALL Lux บริษัทฯ ลงทุนในสัดส่วนการถือหุ้น 100% จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัดตามกฎหมายไทย เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2561 เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย ประเภท Luxury

5.ALL Retail 1 บริษัทฯ ลงทุนในสัดส่วนการถือหุ้น 100% จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัดตามกฎหมายไทย เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2562 เพื่อประกอบกิจการห้างสรรพสินค้า พลาซ่า พื้นที่ให้เช่าเพื่อการค้า

นอกจากนี้ มีกิจการร่วมค้าจำนวน 4 บริษัท คือ

1.ALL Hoosiers บริษัทฯ ลงทุนในสัดส่วนการถือหุ้น 51% จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัดตามกฎหมายไทย เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2560 โดยเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทฯ ในสัดส่วน 51% และที่เหลืออีก 49% ถือหุ้นโดย Hoosiers Asia Pacific Pte. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของ Hoosiers Holdings ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม ความสูง 8 ชั้น ภายใต้ชื่อของโครงการ “The Excel Hideaway Sukhumvit 50”

2.AHJ Ekkamai บริษัทฯ ลงทุนในสัดส่วนการถือหุ้น  51% จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัดตามกฎหมายไทย เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2561 โดยเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทฯ ในสัดส่วน 51% และที่เหลือ 29% ถือหุ้นโดย Hoosiers Asia Pacific Pte. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของ Hoosiers Holdings และอีกร้อยละ 20 ถือหุ้นโดย Kyushu Railway Company ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในประเทศญี่ปุ่นที่จัดตั้งมากว่า 130 ปี ประกอบธุรกิจหลักด้านการคมนาคมขนส่ง การก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์ เพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม ภายใต้ชื่อของโครงการ “Impression Ekkamai”

3.AG Thonglor 16 บริษัทฯ ลงทุนในสัดส่วนการถือหุ้น 62.10% จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัดตามกฎหมายไทย เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2561 โดยเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทฯ ในสัดส่วน 62.10% และที่รายงานประจำปี 2563 ของ ALL ระบุว่าเหลืออีก 37.90% ถือหุ้นโดย กราวด์ พร็อพเพอร์ตี้ พีทีอี แอลทีดี เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย

4.AJ Charoennakhon บริษัทฯ ลงทุนในสัดส่วนการถือหุ้น 51% จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัดตามกฎหมายไทย เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2563 โดยเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทฯ ในสัดส่วน 51% และที่เหลืออีก 49 % ถือหุ้นโดย Kyushu Railway Company เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย

อย่างไรก็ตามเส้นทางการดำเนินธุรกิจภายใต้การบริหารของ ธนากร จะหาทางออกจากปัญหาผิดนัดชำระดอกเบี้ยของหุ้นกู้ ALL244A ที่เกิดขึ้น แล้วพร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตและทำให้ ALL ฟื้นกลับมามีสภาพคล่องเพียงพอและแข็งแกร่งอีกครั้ง ได้อย่างไร ต้องติดตามกันต่อไป!!!


ส่งหน้านี้ให้เพื่อน