วันที่ 12 ก.ค. 65 กรณีเพจสายไหมต้องรอด แชร์คลิปกล้องวงจรปิด ชายรายหนึ่งเข้าไปเตะหน้าคุณยายที่เดินสวน จนล้มหงายหลัง พร้อมข้อความระบุ เกิดเหตุคนร้ายเป็นชายวัยกลางคน ทำร้ายคุณยายอนงค์ อายุ 76 ปี ขณะเดินอยู่ภายในซอยพหลโยธิน 50 เขตบางเขน
คุณยายกำลังจะเข้าบ้าน คนร้ายเดินผ่านมาใช้เท้าเตะเข้าที่หน้าจนคุนยายล้มลงหัวฟาดพื้นหมดสติ ตอนนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ภูมิพล คุณหมอตรวจพบว่ามีเลือดคั่งในสมอง
ขณะที่ตำรวจชุดสืบสวน สน.บางเขน จับกุมผู้ก่อเหตุ นายพงษ์สันต์ สุวรรณศรี อายุ 28 ปี ได้แล้ว เวลา 13.00 น. ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายพงษ์สันต์เข้าไปสอบปากคำ ทีมข่าวพยายามสอบถามถึงเหตุจูงใจ พบว่านายพงษ์สันต์ให้การวกวน ยอมรับว่าก่อนเกิดเหตุดื่มเหล้าขาวไป 1 กั๊ก ผู้สื่อข่าวถามว่าใช้สารเสพติดหรือไม่ นายพงษ์สันต์ ตอบว่า “คงจะไม่”
เมื่อถามถึงเหตุผลว่าทำไมถึงเตะนางอนงค์ นายพงษ์สันต์ไม่ตอบ ถามว่ารู้จักกันมาก่อนไหม นายพงษ์สันต์ถามกลับว่า “เขารู้จักไหมล่ะ” โดยนายพงษ์สันต์ กล่าวต่อว่า เตะครั้งเดียวนางอนงค์ก็ร่วงลงไป ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ได้ขอเงินด้วยหรือไม่ นายพงษ์สันต์ถามกลับ พูดชื่อผู้หญิงรายหนึ่งขึ้นมา ถามว่าเขาใช่ผู้หญิงรายนี้หรือไม่ ผู้สื่อข่าวถามว่าอยากขอโทษผู้บาดเจ็บหรือไม่ นายพงษ์สันต์ กล่าวว่า “ถ้าเห็นหน้าก็คงดี” ซึ่งพูดคุยอย่างงงที่สุด
น.ส.ธนภรณ์ กัณหะสุต อายุ 54 ปี ลูกสาวของนางอนงค์ กัณหะสุต อายุ 76 ปี ผู้บาดเจ็บ ระบุว่า ปกติแม่อาศัยอยู่ที่คอนโดฯ ในซอยพหลโยธิน 50 ส่วนตนอยู่ที่บ้านย่านรังสิต เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 10.00 น. แม่โทรศัพท์มาบอกว่าจะไปทำธุระที่ธนาคาร เดินออกจากซอยคอนโดฯ เพื่อไปห้างสรรพสินค้า
หลังจากนั้น มีชาวบ้านโทรศัพท์มาบอกว่าแม่ถูกทำร้าย จึงรีบตามไปที่โรงพยาบาล ทราบจากแพทย์ว่าแม่มีอาการเลือดคั่งในสมอง วันนี้ได้เข้าไปเยี่ยมแม่ พบว่ามีรอยช้ำที่แขนทั้ง 2 ข้างอาการดีขึ้น สามารถพูดคุยได้ แต่ยังอยู่ในอาการช็อก จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้
โดยตนก็พยายามไม่ให้แม่ดูคลิปเหตุการณ์ เพื่อไม่ให้เกิดความสะเทือนใจ ส่วนผู้ก่อเหตุตนไม่เคยรู้จักมาก่อน ไม่รู้ถึงสาเหตุที่เข้ามาทำร้ายแม่ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มที่ หากมีอาการคลั่งเพราะฤทธิ์เหล้าหรือสารเสพติดก็ควรได้รับการบำบัด รวมถึงครอบครัวก็ควรเข้ามาดูแล ไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้อีก
ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุซอยพหลโยธิน 50 แยก 1 พบเป็นซอยค่อนข้างเปลี่ยว จุดนี้อยู่ห่างจากคอนโดที่พักของนางอนงค์ ผู้บาดเจ็บประมาณ 50 เมตร นางลัดดา สุบันแน่น อายุ 42 ปี ผู้ดูแลคอนโดมิเนียม เล่าว่า เมื่อวานนี้ก่อนเกิดเหตุนางอนงค์ บอกว่าจะออกไปทำธุระข้างนอก ตนเห็นนางอนงค์เดินออกไปตามปกติ หลังจากนั้นไม่ถึง 10 นาที มีชาวบ้านมาบอกว่านางอนงค์ถูกทำร้าย ตนจึงรีบไปที่เกิดเหตุ เห็นนางอนงค์นั่งอยู่ที่พื้น
ตนเข้าไปสอบถามนางอนงค์ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็บอกว่าไม่รู้ บอกแค่ว่าเจ็บศีรษะ ตนจึงเข้าไปดูใกล้ ๆ พบว่าที่ศีรษะมีสีคล้ำ แต่ไม่มีเลือด คิ้วแตก จึงพาส่งโรงพยาบาล ส่วนผู้ก่อเหตุตนไม่รู้จัก แต่เห็นเดินผ่านไปมาแถวที่เกิดเหตุบ่อยครั้ง ทราบว่าอีกฝ่ายชอบทำร้ายผู้หญิงด้วย ตอนนี้ก็กังวล เพราะที่คอนโดส่วนใหญ่มีผู้หญิงที่อาศัยอยู่คนเดียว ก็ห่วงความปลอดภัย
จากนั้น ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางลัดดา สุบันแน่น อายุ 42 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า นายพงษ์สันต์ ผู้ต้องหาเป็นคนเร่ร่อนมักจะเดินวนไปมาในซอยเป็นประจำ เมื่อประมาณ 1 เดือนที่แล้วก็เคยเดินเข้าบ้านตนกลางดึก คาดว่าจะเข้าไปขโมยของ แต่ลูกชายตนนั่งเล่นเกมอยู่เห็นเข้า นายพงษ์สันต์จึงวิ่งหนีไป
นอกจากนี้ นายพงษ์สันต์ยังเคยจับหน้าอกเด็กผู้หญิงอายุประมาณ 9 ขวบ ที่หน้าห้างสรรพสินค้า ขณะนั้นตนเห็นนายพงษ์สันต์ยืนอยู่ใกล้เด็ก และเด็กก็มาบอกว่าถูกจับหน้าอก แต่ไม่ได้เข้าแจ้งความ โดยก่อนเกิดเหตุที่นายพงษ์สันต์เตะป้าอนงค์ ประมาณ 2-3 วัน สังเกตว่าเจ้าตัวคลั่งหนัก เดินถอดเสื้อ คาดว่าน่าจะเป็นผลจากการใช้สารเสพติดหรือเมาเหล้า ทั้งนี้ อยากให้นายพงษ์สันต์ถูกคุมตัวไว้นาน ๆ จะได้ไม่ออกมาก่อเกิดเหตุอีก
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน ระบุว่า นายพงษ์สันต์ สุวรรณศรี ผู้ต้องหา ก่อเหตุทุบตู้กดเงินธนาคารตรงข้ามตลาดยิ่งเจริญเมื่อวันที่ 9 ก.ค. เวลา 01.30 น. โดยมีภาพวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้ ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุพบว่ามีการซ่อมแซมตู้เอทีเอ็มเรียบร้อยแล้ว ช่วงเกิดเหตุไม่มีใครเห็นเพราะเป็นช่วงดึก ชาวบ้านบางส่วนยอมรับว่าเคยเห็นนายพงษ์สันต์เดินผ่านไปมาเป็นประจำ
ขณะที่ พ.ต.ท.สราวุธ บุตรดี รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บางเขน ระบุว่า จากการสอบปากคำนายพงษ์สันต์ ยอมรับว่าก่อเหตุทำร้ายนายอนงค์ และทุบทำลายตู้เอทีเอ็มธนาคารจริง เบื้องต้น ตรวจสารเสพติดผู้ต้องหาพบผลเป็นลบ ไม่พบสารเสพติดในร่างกาย คาดว่าทำไปเพราะเมาสุรา
เบื้องต้น ได้แจ้งข้อหาทำลายทรัพย์สินผู้อื่น และทำร้ายร่างกายผู้อื่น เตรียมส่งศาลแขวงดอนเมืองพรุ่งนี้ โดยฝากถึงประชาชนหากเคยถูกผู้ต้องหารายนี้ทำร้ายร่างกายหรือบังคับขู่เอาเงิน สามารถมาแจ้งความเพิ่มได้ที่ สน.บางเขน