Commuters

ที่มาของภาพ, Getty Images

รัฐมนตรีคลังสหราชอาณาจักรเสนอแผนการตัดลดภาษีครั้งมโหฬาร และมาตรการทางเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นการเติบโต โดยจะมีการกู้เงินมาทดแทนรายได้รัฐที่หายไปจากการลดภาษี ด้านฝ่ายค้านวิจารณ์ว่า มาตรการเหล่านี้เป็นการ “ช่วยคนที่รวยอยู่แล้ว” ไม่ได้เป็นการช่วยเหลือผู้ที่เผชิญปัญหาค่าครองชีพสูงในปัจจุบัน

แผนการตัดลดภาษีของนายกวาซี กวาร์เทง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหราชอาณาจักร ที่เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรเมื่อ 23 ก.ย. เป็นการตัดลดภาษีครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1972 รวมถึงการตัดลดอัตราภาษีเงินได้, การยกเลิกการขึ้นเงินนำส่งกองทุนประกันสังคมของสหราชอาณาจักร และการยกเว้นการเก็บอากรแสตมป์ที่ดินสำหรับผู้ซื้อบ้านราคาไม่เกิน 250,000 ปอนด์ (ประมาณ 10.25 ล้านบาท) จากเดิมกำหนดเพดานไว้ที่ 125,000 ปอนด์ (ประมาณ 5.13 ล้านบาท) ขณะที่ผู้ซื้อบ้านหลังแรกเพดานราคาบ้านที่ได้รับการยกเว้นภาษีขยับไปอยู่ที่ 425,000 ปอนด์ (ประมาณ 17.43 ล้านบาท) ซึ่งมีผลในอังกฤษและไอร์แลนด์เหนือตั้งแต่ 23 ก.ย.

นายกวาร์เทง กล่าวว่า “ในระบบปัจจุบัน ไม่มีการเก็บอากรแสตมป์สำหรับมูลค่าบ้าน 125,000 ปอนด์แรก เราได้เพิ่มเป็น 2 เท่ามาอยู่ที่ 250,000 ปอนด์” รัฐมนตรีคลังสหราชอาณาจักร กล่าว

เขากล่าวเพิ่มเติมว่า “ผู้ซื้อบ้านหลังแรกปัจจุบันไม่ต้องจ่ายอากรแสตมป์สำหรับ 300,000 ปอนด์แรก เราได้เพิ่มเพดานเช่นกันมาอยู่ที่ 425,000 ปอนด์”

นอกจากนี้นายกวาร์เทงระบุว่า จะมีการเพิ่มมูลค่าบ้านที่ผู้ซื้อบ้านหลังแรกสามารถขอรับผลประโยชน์ได้จาก 500,000 ปอนด์ (ประมาณ 20.5 ล้านบาท) เป็น 600,000 ปอนด์ (ประมาณ 24.6 ล้านบาท)

ไฟซาล อิสลาม บรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของบีบีซี นิวส์ ระบุว่า แผนการลดภาษีครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 50 ปี ประกอบด้วย การตัดลดภาษีเงินได้นิติบุคคล มูลค่า 12,000 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4.9 แสนล้านบาท), การตัดลดเงินนำส่งกองทุนประกันสังคมของสหราชอาณาจักรลง มูลค่า17,000 ล้านปอนด์ (ประมาณ 7 แสนล้านบาท), การตัดลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอัตราพื้นฐาน มูลค่า 5,000 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2.1 แสนล้านบาท) และอัตรา 45% อีก มูลค่า 2,000 ล้านปอนด์ (ประมาณ 82,000 ล้านบาท)

บรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจ บีบีซี นิวส์ ระบุว่า แม้การประกาศนี้อาจจะช่วยบรรเทาภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่สหราชอาณาจักรน่าจะเข้าสู่ภาวะนี้แล้ว แต่การกู้ยืมเงินมหาศาลก็ส่งผลกระทบต่อตลาดเช่นกัน การที่ไม่สามารถยืนยันตัวเลขในการกู้ยืมของรัฐบาลได้ เป็นการเพิ่มความไม่แน่นอนในตลาด

ที่มาของภาพ, Getty Images

คำบรรยายภาพ,

นายกวาซี กวาร์เทง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ของสหราชอาณาจักร

ขณะที่นางราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีเงากระทรวงการคลังของพรรคเลเบอร์ ได้ตั้งคำถามต่อการตัดลดอากรแสตมป์ที่ดิน เธอบอกว่า เคยมีการลองเปลี่ยนแปลงการเก็บอากรแสตมป์มาแล้ว “ครั้งที่แล้วที่รัฐบาลทำ หนึ่งในสามของคนที่ได้รับผลประโยชน์ ซื้อบ้านหลังที่ 2 หรือ ซื้อเพื่อปล่อยเช่า” เธออ้าง ก่อนที่จะถามว่า “นี่เป็นการใช้เงินผู้จ่ายภาษีที่ดีที่สุดจริง ๆ หรือ ในเมื่อการกู้เงินและหนี้สินก็สูงมากอยู่แล้ว”

“รัฐมนตรีคลังแสดงออกชัดเจนว่า ใครคือคนสำคัญที่สุดลำดับแรกของเขา” นางรีฟจากพรรคเลเบอร์ กล่าว “นี่คือแผนการตอบแทนคนที่รวยอยู่แล้ว”

เธอระบุว่า แผนการนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นแนวคิดที่ล้าหลังที่เห็นว่า “ถ้าเราตอบแทนคนที่รวยอยู่แล้ว สังคมโดยรวมก็จะได้รับผลประโยชน์ไปด้วย”

มีแผนตัดลดอะไรบ้าง

  • ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะตัดลดลงมาอยู่ที่ 19% ตั้งแต่เดือน เม.ย. ปีหน้า
  • ยกเลิกการปรับขึ้นเงินนำส่งกองทุนประกันสังคมของสหราชอาณาจักรเมื่อไม่นานนี้ โดยจะกลับไปเก็บเท่าเดิมตั้งแต่ 6 พ.ย. นี้
  • ยกเลิกแผนการขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 19% เป็น 25%
  • เพิ่มความเข้มงวดของกฎเกณฑ์การรับเงินช่วยเหลือ โดยจะลดผลประโยชน์ลง ถ้าคนไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหางาน
  • งดเว้นการเก็บอาการแสตมป์ที่ดิน ซึ่งเก็บจากคนที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษและไอร์แลนด์เหนือ สำหรับคนที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์มูลค่าน้อยกว่า 250,000 ปอนด์ และหากเป็นผู้ซื้อบ้านหลังแรกเพดานนี้จะขยับขึ้นเป็น 425,000 ปอนด์
  • ยกเลิกการจำกัดการให้โบนัสแก่บรรดานายธนาคาร
  • นักท่องเที่ยวต่างชาติจะได้รับการงดเว้นการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในการซื้อสินค้า
  • ยกเลิกแผนการขึ้นภาษีสรรพสามิตที่เก็บจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • ตั้งเขตส่งเสริมการลงทุนที่มีการเก็บภาษีต่ำ
  • ระงับการขึ้นค่าพลังงาน ซึ่งรัฐบาลอ้างว่า จะช่วยลดเงินเฟ้อได้ 5% คาดว่า เงินที่ใช้อุดหนุนด้านพลังงานจะอยู่ที่ประมาณ 60,000 ล้านบาท ในช่วงเวลา 6 เดือน นับจากเดือน ต.ค.

บรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของบีบีซี นิวส์ ระบุว่า ปกติแล้วการเปิดตัวรัฐมนตรีคลังครั้งแรกต่อสภา มักมุ่งเน้นไปที่การสร้างความน่าเชื่อถือทางการคลัง แต่สิ่งที่ที่นายกวาร์เทงทำเมื่อ 23 ก.ย. กลับไม่เป็นเช่นนั้น แผนการตัดลดภาษีจำนวนมหาศาลนี้คล้ายเหตุการณ์ในปี 1972 ซึ่งได้นำไปสู่ช่วงเวลาของการเติบโตและการตกต่ำในสมัยรัฐมนตรีคลังที่ชื่อว่า แอนโธนี บาร์เบอร์

ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ก่อนหน้านี้ สหราชอาณาจักรเคยยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จับจ่ายใช้สอย แต่ได้มีการยกเลิกไปในช่วงสิ้นปี 2020 แต่นายกวาร์เทง กล่าวว่า จะนำสิทธิประโยชน์นี้กลับมามอบให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้ง

“อังกฤษต้อนรับนักท่องเที่ยวหลายล้านคนในแต่ละปี และผมต้องการให้ย่านการค้าและสนามบินของเรา, ท่าเรือของเรา และศูนย์การค้าต่าง ๆ ของเรา รู้สึกว่า ได้รับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ดังนั้น เราได้ตัดสินใจว่า จะงดเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มในการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ” เขากล่าวต่อรัฐสภาระหว่างการนำเสนอแผนการตัดลดภาษี

โดยนายกวาร์เทงระบุว่า รัฐบาลจะนำระบบดิจิทัลมาใช้แทนที่ระบบที่ใช้เอกสาร และจะนำมาใช้งานอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

รอยเตอร์ อ้างคำให้สัมภาษณ์ของ ลินดา เอลเลตต์ หัวหน้าฝ่ายตลาดผู้บริโภค ธุรกิจค้าปลีก และสันทนาการ ในสหราชอาณาจักรของ KPMG ว่าการทำเช่นนี้ของรัฐบาลสหราชอาณาจักรจะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ

เว็บไซต์แฟชั่นเน็ตเวิร์ก รายงานว่า การที่นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้มาจากสหภาพยุโรปสามารถขอภาษีมูลค่าเพิ่ม 20% คืนได้ที่สนามบิน เป็นสิ่งสำคัญที่ดึงดูดให้พวกเขามาอังกฤษ ขณะที่พวกเขายังคิดอยู่ว่า จะไปช้อปปิ้งที่ไหนในยุโรป ก่อนที่รัฐบาลพรรคคอนเซอร์เวทีฟจะยกเลิกมาตรการนี้ตั้งแต่เริ่มต้นปี 2021 เพราะต้องการหารายได้หลายพันล้านปอนด์มาใช้ในการสนับสนุนผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของโควิด

ค่าปอนด์ร่วง

ตลาดการเงินมีปฏิกิริยาต่อการประกาศแผนลดภาษีของรัฐบาลสหราชอาณาจักร โดยค่าเงินปอนด์ลดลง 1% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ไปอยู่ที่ 1.11 ดอลลาร์สหรัฐต่อปอนด์ เทียบกับ 1.12 ดอลลาร์สหรัฐต่อปอนด์ช่วงก่อนหน้าที่นายกวาร์เทงจะประกาศแผน

เจน โฟลีย์ นักกลยุทธ์ด้านการแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่ราโบแบงก์ กล่าวว่า นักลงทุน “กังวลว่า การตัดลดภาษีที่มีการประกาศไปเหล่านี้บางส่วน จะไม่มีเงินสนับสนุนอย่างเต็มที่ จะส่งผลให้ต้องติดหนี้มหาศาลในช่วงเวลาที่ธนาคารกลางอังกฤษกำลังจะขายพันธบัตรรัฐบาลที่ถือไว้อยู่บางส่วน”

เธอกล่าวว่า “ฉันรู้ว่า ลูกค้าบางส่วนของเรากำลังตื่นตระหนก”

โฟลีย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ฉันคิดว่า รัฐบาลนี้ จำเป็นต้องให้ความมั่นใจว่า มีการใส่ใจวินัยทางการคลัง นี่ไม่ใช่สัญญาณที่พบจากเมื่อเช้านี้”

ทั้งนี้ค่าเงินปอนด์ได้ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์สหรัฐจากการที่ธนาคารกลางขึ้นดอกเบี้ยมาตรฐานไปหลายครั้งในรอบปีนี้

นักวิเคราะห์ของซิตี้แบงก์ ได้ปรับการคาดการณ์ของพวกเขาว่า จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วขึ้นและสูงขึ้นกว่าเดิม หลังจากที่รัฐบาลประกาศแผนการตัดลดภาษี ซึ่งทำให้คนบางส่วนเชื่อว่า จะส่งผลให้เงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปสักระยะ

จากข้อมูลของบลูมเบิร์ก นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราดอกเบี้ยของสหราชอาณาจักรจะแตะระดับ 5.2% ในเดือน ส.ค. 2023 โดยเริ่มมีการคาดการณ์สูงขึ้นว่า อาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1% ในการประชุมเดือน พ.ย. ของธนาคารกลางอังกฤษ