วันอังคาร ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2565, 23.11 น.
5 กรกฎาคม 2565 ที่กระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช พานายรมย์รวินทร์ ธัญเศรษฐ์กุล กรรมการผู้มีอำนาจ เดอะ นิว คอนเซปท์ พร็อพเพอร์ตี้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กรณี กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อายัดทรัพย์ 1,200 ล้าน โครงการคอนโดฯ หรู จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.65 โดยมี นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้รับเรื่อง
ทนายอนันต์ชัย เผยว่า สืบเนื่อง จากเมื่อปี 2564 ทางบริษัทดำเนินโครงการอสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับการร่วมลงทุนคอนโดมิเนียม มีผู้สนใจกว่า 2,000 ราย มีสัญญาว่าจะเมื่อลงทุนต้องชำระเงินค่าห้องพักเต็มราคาก่อนแล้วจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 8% ตามกำหนด แต่ต่อมาเกิดขาดสภาพคล่องเพราะสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้ร่วมลงทุนบางรายไม่ได้รับผลตอบแทนตามกำหนด รวมตัวกัน 80 คน เข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ กระทั่งดีเอสไอ พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ เข้าอายัดทรัพย์สินโครงการ รวมมูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมองว่าโครงการดังกล่าวอาจเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน ส่งผลให้ผู้ประกอบการและผู้ร่วมลงทุนอีก 1,200 คน ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ทนายอนันต์ชัย เผยต่อว่า บริษัทดำเนินการก่อสร้าง 14 โครงการ ใน จ.เชียงใหม่และ จ.ภูเก็ต บางโครงการก่อสร้างเสร็จ แต่อีกหลายโครงการก่อสร้างไม่เสร็จ ซึ่งเป็นทั้งอสังหาริมทรัพย์และโรงแรม มีการโอนโฉนดให้กับลูกค้าไปแล้วจำนวนมาก รวมทั้งสามารถเปิดให้ชาวต่างชาติหรือนักท่องเที่ยวเช่าอยู่อาศัยและจะนำเงินรายได้มาเฉลี่ยจ่ายให้กับผู้ร่วมลงทุน 8% ของเงินลงทุนทั้งหมด แต่เมื่อการท่องเที่ยวในประเทศหยุดชะงัก ไม่มีคนเข้ามาเช่าอยู่อาศัยจึงทำให้ขาดสภาพคล่อง ไม่มีการจ่ายเงินลงทุนครบถ้วน ลูกค้าบางคนจึงไม่พอใจ เกิดการฟ้องร้องเป็นคดีความ จนในที่สุดเกิดการอายัดทรัพย์สินของโครงการ
“วันนี้มายื่นเรื่องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมตรวจสอบการทำงานของดีเอสไอเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ เพราะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการเพราะอายัดทรัพย์สินทำให้เงินหมุนเวียนได้รับผลกระทบ แม้จะยื่นเอกสารหลักฐานต่างๆ ให้กับดีเอสไอแต่ยังไม่มีการเรียกเข้าไปให้การชี้แจงในคดีดังกล่าว นอกจากนี้ จะมีการฟ้องร้องกับผู้เสียหาย 80 คนที่เข้าร้องเรียนกับดีเอสไอ และอาจฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับทางดีเอสไอ เนื่องจากทำให้เกิดความเสียหายซึ่งไม่สามารถประเมินค่าได้”
ด้านนายรมย์รวินทร์ ธัญเศรษฐ์กุล เปิดเผยอย่างมีอารมณ์โมโหว่า ได้ติดต่อดีเอสไอหลายครั้งเพื่อเข้ามาชี้แจงแต่ทางหน่วยงานก็ไม่ยอมรับฟัง ทั้งนี้หากตั้งใจจะโกงจริงคงหนีไปแล้ว แต่ก็ยังปักหลักต่อสู้และพูดคุยเยียวยากับผู้เสียหายที่เหลือ ส่วนเรื่องเงินลงทุนและรายได้ยืนยันว่ามีอยู่จริงโดยเห็นได้จากการไปกู้เงินจากธนาคารต่างๆ หลายธนาคารและได้รับการอนุมัติวงเงิน หากไม่มีหลักทรัพย์หรือความน่าเชื่อถือจริงก็คงไม่ได้วงเงินต่างๆ ยืนยันว่าเงินรายได้และที่มาจากผู้ลงทุนเอาไปก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ซึ่งมีการก่อสร้างแล้วเสร็จและโอนโฉนดไปหนึ่งแล้ว ส่วนผู้เสียหายทั้ง 80 คนโครงการได้มีความพยายามพูดคุยเจรจาแล้ว แต่ไม่เป็นผลและไม่เข้าใจว่าทำไมจึงไปร้องกับดีเอสไอ มูลค่าความเสียหายขณะนี้ประเมินค่าไม่ได้
ขณะที่นายสหการณ์ กล่าวว่า จะเร่งรัดให้กรมสอบสวนคดีพิเศษตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงในคดีดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุดเพื่อให้เกิดความเสียหายกับเจ้าของโครงการและผู้เสียหายที่มาร้องให้น้อยที่สุดทั้งนี้จะมีการนำเรื่องดังกล่าวให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
-(016)