'สิงห์ เอสเตท' พักลงทุนคอนโด ทุ่มหมื่นล้านลุยบ้านหรู ราคา 10-200 ล้าน

ส่งหน้านี้ให้เพื่อน

‘สิงห์ เอสเตท’ พักลงทุนคอนโด ทุ่มหมื่นล้านลุยบ้านหรู ราคา 10-200 ล้าน

เมื่อวันที่ 26 มกราคม นายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการพัฒนาธุรกิจพักอาศัยบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2566 จะเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบระดับลักชัวรี่ทั้งหมด ทำเลใจกลางกรุงเทพฯ โซนตะวันออกและตะวันตก พร้อมกับขยายเซ็กเมนต์ตลาดเพิ่มจากเดิมระดับ 65 ล้านบาทขึ้นไป ขยับเป็นตั้งแต่ 10-200 ล้านบาท เนื่องจากมองว่าบ้านระดับบนตลาดเป็นเรียลดีมานด์ ไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และยังเติบโตได้อีก โดยโครงการใหม่มีทั้งบ้านสร้างเสร็จก่อนขายและสั่งสร้าง เริ่มเปิดจองตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ส่วนคอนโดมิเนียมยังไม่มีแผนพัฒนาโครงการใหม่ เพราะตลาดยังไม่ค่อยดี จะเน้นระบายสต๊อกที่ยังเหลืออยู่ มี โครงการดิเอส สุขุมวิท 36 เหลือประมาณ 20% และ ดิ เอ็กซ์โทร พญาไท-รางน้ำ ยังเหลือ 65% โดยปี 2565 มีรายได้ตามเป้าโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เป็นแนวราบและแนวสูงสัดส่วน 50 : 50 ในปีนี้ตั้งเป้ายอดขายสูงขึ้นจากปีก่อน โดยแนวราบจะมีรายได้มากขึ้นเป็น 70% ซึ่ง โครงการบ้านสันติบุรี จะโอนหมดในปีนี้ จากทั้งโครงการมี 25 หลัง มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เมื่อปี 2565 ได้เปิดขาย โครงการศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส พัฒนาการ 32 เนื้อที่ 23 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 28 หลัง ราคา 65-180 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 2,900 ล้านบาท มีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ

แบบบ้าน Residences I มีพื้นที่ใช้สอย 820 ตารางเมตร บนขนาดที่ดินเริ่มต้น 219 ตารางวา ประกอบด้วย ห้องนอน 5 ห้อง ห้องอาบน้ำ แต่งตัว ห้องอเนกประสงค์ ที่รวมกันแล้วมากถึง 6 ห้อง พร้อมพื้นที่จอดรถสูงสุดถึง 8 คัน โดยมีจุดเด่นอยู่ที่บริเวณคอร์ทกลางบ้าน ซึ่งสามารถดีไซน์ให้เป็นพื้นที่สวนเพื่อให้สามารถมองเห็นสวนกลางบ้านได้จากชั้น II เพื่อเพิ่มความโปร่งโล่งสบายให้กับบรรยากาศในบ้าน

แบบบ้าน Residences II มีพื้นที่ใช้สอย 682 ตารางเมตร บนขนาดที่ดินเริ่มต้น 152 ตารางวา ประกอบด้วย ห้องนอนมากถึง 5 ห้อง ห้องอาบน้ำ แต่งตัว ห้องอเนกประสงค์ ที่รวมกันแล้วมากถึง 6 ห้อง พร้อมพื้นที่จอดรถสูงสุดถึง 8 คัน

และ แบบบ้าน Residences III มอบขนาดพื้นที่ใช้สอย 551 ตารางเมตร บนขนาดที่ดินเริ่มต้น 125 ตารางวา ประกอบด้วย ห้องนอน 4 ห้อง ห้องอาบน้ำ แต่งตัว ห้องอเนกประสงค์ ที่รวมกันแล้วมากถึง 5 ห้อง และพื้นที่จอดรถ 4 คัน

“ปัจจุบันมียอดจองแล้ว 95% และยอดโอน 7 หลัง กว่า 830 ล้านบาท” นายณัฐวุฒิกล่าว และว่า นอกจากนี้ ยังนำที่ดินส่วนที่เหลือประมาณ 1 ไร่ พัฒนาเป็นโครงการโฮมออฟฟิศ ชื่อ เซนท์เทอร์ จำนวน 4 ยูนิต มูลค่า 90 ล้านบาท พื้นที่เริ่มต้น 42 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 351 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 21.9 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 2 ยูนิต


ส่งหน้านี้ให้เพื่อน