นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การที่ไทยเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบทำให้ชีวิตของคนเมืองและตลาดคอนโดมิเนียมในเมืองใกล้รถไฟฟ้ากลับมาคึกคัก โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าเจน Y และ Z ที่จะเลือกซื้อเพราะโลเกชั่นมากที่สุด ซึ่งอนันดามีคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ในสต๊อกอยู่ทำเลมีศักยภาพรองรับ
“สถานการณ์ภาพรวมประเทศมีแนวโน้มในทิศทางดีขึ้นจากการเปิดเมือง จากนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา การจองห้องพักโรงแรมเพิ่มขึ้น แต่ปีนี้ยังมีปัจจัยการปรับขึ้นของราคาที่ดิน ราคาน้ำมัน และการก่อสร้างที่ผู้ประกอบการอสังหา ต้องเตรียมรับมือกับการปรับราคา ซึ่งอนันดามีคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าในราคาต้นทุนเดิมที่พร้อมขายให้ลูกค้า”
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวล ลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อนันดา เตรียมแผนรองรับดีมานด์ที่จะฟื้นกลับมาในช่วงครึ่งปีหลัง โดยมีสินค้าพร้อมอยู่และกำลังสร้างกว่า 58,725 ล้านบาท ที่จะรองรับการเติบโตใน 3 ปีจากนี้ แบ่งเป็นโครงการพร้อมอยู่ มูลค่า 29,324 ล้านบาท โครงการที่จะสร้างเสร็จ ในปี 2565-2566 มูลค่า 19,397 ล้านบาท และ จาก 7 โครงการ ใหม่ที่จะสามารถรับรู้รายได้ปี 2565-2566 มูลค่า 10,004 ล้านบาท
ขณะเดียวกันจะบุกตลาดแนวราบมากขึ้น โดยเพิ่มสัดส่วนในพอร์ตเป็น 20-30% จากเดิมมีรายได้ 6,687 ล้านบาท เป็น 11,778 ล้านบาท โดขยายสู่เซ็กเมนต์ลักชัวรี่ มีเปิดโครงการ Pool Villa หรูกลางใจเมือง ขณะนี้มียอดพรีบุ๊กกิ้งแล้วกว่า 20% โดยไตรมาส 2 นี้เราจะเริ่มทำยอดขายและรับรู้รายได้ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด จากการรับรู้รายได้จาก 2 โครงการสร้างเสร็จกว่า 6,000 ล้านบาท ยังมีอีก 6 โครงการที่จะปิดการขายภายในปีนี้กว่า 9,812 ล้านบาท
นายประเสริฐกล่าวว่า สำหรับ 6 โครงการ ได้แก่ อาร์เทล เอกมัย-รามอินทรา มูลค่า 1,531 ล้านบาท ,ไอดีโอ สาทร-วงเวียนใหญ่ มูลค่า 2,352 ล้านบาท ,ไอดีโอ รัชดา- สุทธิสาร มูลค่า 1,527 ล้านบาท ,ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท 66 มูลค่า 2,155 ล้านบาท ,ยูนิโอ สุขุมวิท 72 เฟส 2 มูลค่า 1,866 ล้านบาท และยูนิโอ ทาวน์ เพชรเกษม 110 มูลค่า 383 ล้านบาท ส่วนแผนการเปิด 7 โครงการ มูลค่ากว่า 29,098 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ และแนวราบ 2 โครงการ
สำหรับโครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ มูลค่า 12,000 ล้านบาท คาดว่าสามารถรับกระแสเงินสดที่เป็นรายได้ประจำสม่ำเสมอ (Recurring Income) จาก 5 โครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาได้เริ่มเปิดดำเนินการโครงการซัมเมอร์เซต พระราม 9 และเปิดอีก 4 โครงการ คือ แอสคอทท์ ทองหล่อ บางกอก ,แอสคอทท์ เอ็มบาสซี สาทร ,ไลฟ์ สุขุมวิท 8 บางกอก และซัมเมอร์เซต พัทยา ในระหว่างเดือนกรกฎาคม-ตุลาคมนี้ โดยเปิดเดือนละ 1 โครงการ
นายประเสริฐ กล่าวว่า บริษัทได้จัดแคมเปญรองรับการเปิดเมืองเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ โดยนำคอนโดมิเนียม 17 โครงการใกล้รถไฟฟ้า มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท ขายราคาพิเศษ 1.65-14.9 ล้านบาท และให้อยู่ฟรี 36 เดือน
“เรามั่นใจว่าความเชื่อมั่นของลูกค้าดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และดีมานด์คอนโดมิเนียมในเมือง ยังไม่หายและกำลังจะกลับมาอีกครั้ง ทั้งนี้จากต้นทุนก่อสร้างที่สูงขึ้น 5-10% แต่เรายังมีสต๊อกที่พร้อมขายอยู่ในราคาเดิม ส่วนโครงการใหม่รอจังหวะตลาดเปิดและจังหวะในการพัฒนาโครงการ และขึ้นอยู่กับการดีลกับผู้รับเหมาก่อสร้างด้วย” นายประเสริฐกล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่