อสังหาฯ ภูเก็ต กระเตื้อง บ้านระดับล่างและลักซูรี่ ยังขายได้ ต่างชาติส่งสัญญาณดี ต้องการที่อยู่อาศัยในภูเก็ต

ส่งหน้านี้ให้เพื่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต – นายกสมาคมอสังหาภูเก็ต เผยธุรกิจอสังหาภูเก็ตเริ่มกระเตื้อง ตลาดระดับล่างและลักซูรี่ ขายได้ ส่วนระดับกลางหลังละ 10 ล้านนิ่งสนิทจากกำลังซื้อถดถอย ส่วนตลาดต่างชาติสัญญาณดีมาก ทั้งยุโรปและรัสเชีย ต้องการที่อยู่อาศัยในภูเก็ต

นายพัทธนันท์ พิสุทธิ์วิมล นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต

นายพัทธนันท์ พิสุทธิ์วิมล นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต ในงานประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2565 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ในโอกาสทางสมาคมอสังหา ได้เชิญ นายวัฒนพงศ์ สุกใส ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต นายณัฐกฤษณ์ พลเพชร ผู้อำนวยการส่วนสิ่งแวดล้อม บรรยายในหัวข้อ “ประกาศสิ่งแวดล้อมใหม่ฉบับใหม่ การจำกัดความสูงในการก่อสร้างที่ 80 เมตร ขยายเป็น 140 เมตรจริงหรือไม่ โดยมี นายวิสิทธิ์ โชคชัย เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต คณะกรรมการบริหาร และสมาชิกสมาคมฯ เข้าร่วม ณ โรงแรมเพิร์ลภูเก็ต เมื่อเร็วๆนี้ ว่า

แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตเริ่มกระเตื้องขึ้นแล้ว ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ดีขึ้นตามลำดับ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวภูเก็ตเพิ่มสูงขึ้น โดยแบ่งตลาดอสังหาในภูเก็ต ออกเป็น 2 ส่วน คือ กลุ่มตลาดคนไทย และตลาดชาวต่างชาติ ซึ่งในส่วนของตลาดคนไทยนั้น ยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยอยู่ แต่เป็นที่อยู่อาศัยระดับราคาไม่สูงมาก หรือกลุ่มตลาดล่าง ที่ราคาไม่เกิน 2.5 ล้านบาท ยังเป็นที่ต้องการของตลาดซื้อเพื่ออยู่อาศัย ซึ่งจะเห็นว่า โครงการบ้านจัดสรรที่เปิดตัวโครงการขายบ้านราคาระดับนี้ ยงสามารถขายได้ และสำคัญสามารถโอนได้อีกด้วย เนื่องจากราคาที่ไม่สูงมาก ลูกค้ามีกำลังซื้อ

ส่วนบ้านระดับราคาตั้งแต่ 2.5 ล้านบาทไปจนถึง 10 ล้านบาท ตลาดนิ่งมาก จากปัญหารายได้ของคนทำงานระดับผู้บริหารในภูเก็ตลดลงจากการถูกลดเงินเดือน ถูกเลิกจ้าง หรือจ้างใหม่แต่เงินเดือนลดลง เงินเดือนที่ได้ตอนนี้ไม่น่าจะเกิน 20,000-30,000 บาท สามารถซื้อบ้านได้ระดับราคาไม่เกิน 2.5 ล้านบาท จึงทำให้ตลาดระดับกลางหยุดชะงักในขณะนี้ แทบจะไม่มีการเคลื่อนไหว

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตลาดบน ที่เป็นกลุ่มลักซูรี่ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีเงินเก็บอยู่แล้ว ตลาดในส่วนนี้ยังมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอด เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงมาก และในขณะนี้เป็นช่วงที่ราคาอสังหาไม่สูงมาก ลูกค้าสามารถต่อรองเงื่อนไขได้มากกว่าช่วงปกติ จึงเป็นโอกาสของกลุ่มลักซูรี่ในการซื้ออสังหาราคาสูงๆในภูเก็ต

“ปัจจุบันนี้ 2 ตลาดในภูเก็ตที่ยังมีการเคลื่อนไหว คือ ตลาดระดับล่าง ราคาไม่เกิน 2.5 ล้านบาท และตลาดบนระดับลักซูรี่ ราคาสูงๆ ส่วนตลาดระดับกลาง ราคาตั้งแต่ 2.5-10 ล้านบาท ตลาดนิ่งมากๆ จากกำลังซื้อถดถอย” นายกสมาคมอสังหา ภูเก็ต กล่าวและว่า



ส่วนตลาดต่างชาตินั้น น่าสนใจมากในขณะนี้ จากที่สถานการณ์ในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสงคราม หรือต้นทุนในยุโรปที่สูงมาก ทำให้ชาวยุโรปมองหาสถานที่ที่มีต้นทุนต่ำกว่าในเรื่องการลงทุนและมีความปลอดภัย เช่นเดียวกับรัสเชียที่มีสงคราม คนรัสเชียจึงมองหาที่อยู่ที่มีความปลอดภัย ซึ่งโซนเอเชียถือว่าปลอดภัยที่สุด ภูเก็ตจึงจุดหมายปลายทางที่คนในยุโรปและรัสเซีย รวมไปถึงชาติอื่นๆ สนใจมาซื้ออสังหา เพื่ออยู่อาศัยและเพื่อการลงทุนจากที่ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก และมีความปลอดภัย และเรื่องราคาไม่ใช่ปัญหาของกลุ่มชาวต่างชาติ

“ทำให้ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ตลาดในส่วนของชาวต่างชาติ กระเตื้องขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้ง รัสเชีย ยุโรป อเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมัน และชาติอื่นๆ มีการเคลื่อนไหวอย่างเห็นได้ชัด ในการสนใจซื้ออสังหา ในจังหวัดภูเก็ต” นายกสมาคมอสังหา ภูเก็ต กล่าวและระบุว่า

คาดว่าในปี 2565 นี้ ธุรกิจอสังหาในภูเก็ตที่เป็นกลุ่มลักซูรี่น่าที่จะเติบโตสูงจากปี 2564 ไม่ต่ำกว่า 50% และมูลค่าการซื้อขายไม่น่าจะต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท และในปีหน้าน่าที่จะมีมูลค่าการซื้อขายไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท จากที่ตลาดระดับบนมีการเคลื่อนไหวอย่างเห็นได้ชัด

ส่วนมูลค่าการลงทุนด้านอสังหาในภาพรวมของภูเก็ตนั้น ก่อนเกิดโควิด-19 ระบาด มูลค่าการลงทุนอยู่ที่ปีละประมาณ 30,000 ล้านบาท แต่เมื่อเกิดโควิด-19 ระบาด ทำให้การลงทุนชะลอตัว มูลค่าการลงทุนลดลงเหลือประมาณปีละ 8,000-10,000 ล้านบาท และหลังจากนี้เชื่อว่าสถานการณ์จะค่อยๆ กระเตื้องขึ้น ทั้งตลาดคนไทยและตลาดต่างชาติ โดยเฉพาะตลาดต่างชาติ เป็นตลาดที่ต้องจับตามอง และหากคนจีนสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ จะส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาภูเก็ตเป็นอย่างมาก เพราะคนจีนมีความต้องการอสังหาในภูเก็ตสูงมาก

นายกสมาคมอสังหาภูเก็ต กล่าวในตอนท้ายว่า ขณะนี้ทางสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต และภาคเอกชน ได้พยายามที่จะผลักดันให้มีการแก้ไขประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฉบับใหม่ เรื่องการจำกัดความสูงในการก่อสร้างที่ 80 เมตร ขยายเป็น 140 เมตร เพื่อให้สามารถก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่สูงกว่า 80 เมตรได้ เนื่องจากขณะนี้ภูเก็ตถูกควบคุมด้วยประกาศกระทรวงทรัพย์ฯ เรื่องความสูง ที่ดินที่มีเอกสารสิทธิที่ตั้งอยู่ในพื้นที่สูงกว่า 80 เมตร ไม่สามารถก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างอะไรได้ หากประกาศฯดังกล่าวได้รับการแก้ไข เชื่อว่าการลงทุนอสังหา ที่เป็นลักซูรี่จะเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากที่ดินที่สูงเกิน 80 เมตร จะเป็นพื้นที่สูงสามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างสวยงาม ซึ่งเป็นทำเลที่นักลงทุนและลูกค้าชาวต่างชาติต้องการบ้านพักตากอากาศที่มองเห็นวิวทะเล


ส่งหน้านี้ให้เพื่อน