เดินหน้ากล้าลุย! ธุรกิจในฝันของหนุ่มสาวรุ่นใหม่

ส่งหน้านี้ให้เพื่อน

เมื่อคำว่า Passion มาพร้อมกับความขยัน หนุ่มสาวยุคนี้ไม่รีรอที่จะออกจากพื้นที่ปลอดภัย หรือ Comfort Zone ในการเป็นมนุษย์เงินเดือน มาลุยงานเดินตามแรงบันดาลใจกลายเป็นเทรนด์ของคนรุ่นใหม่ที่ขอเป็นนายตัวเอง ในการก้าวสู่เจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ แนท-ปรทิพย์ นามชุ่ม บุษยวิทย์ และ เบสท์-ธนนันทพันธ์ บุษยวิทย์ คู่รักหนึ่งในคนรุ่นใหม่ที่มองเห็นโอกาสทางธุรกิจจากความชื่นชอบในการทำสปาเล็บนำไปสู่การเป็นเจ้าของร้าน che.nail ที่ตั้งอยู่ซอยพระรามเก้า 45 ซึ่งทำมายาวนานกว่า 6 ปี และกำลังขยายร้านไปที่ใหม่ ในเดือน พ.ค.พร้อมตั้งชื่อร้านใหม่เป็น NAIL.MATE อยู่ ซ.พระรามเก้า 41 หรือ ซ.รามคำแหง 24 แยก 20 Line ID : @nail.mate

ปรทิพย์–ธนนันทพันธ์ บุษยวิทย์
ปรทิพย์–ธนนันทพันธ์ บุษยวิทย์

แนท–ปรทิพย์ อดีตมนุษย์เงินเดือนผู้จุดประกายธุรกิจนี้ เล่าว่า ตอนเด็กมีความรู้สึกว่าเล็บตัวเองไม่สวยเลยชอบทำเล็บ พอโตเข้าร้านทำเล็บก็จะคอยสังเกตและถามช่าง จนสามารถทำเล็บของตัวเองได้ จากนั้นได้ลงทุนซื้อเครื่องมือทำเล็บหลักหมื่น พอเอามาทำคนเดียวรู้สึกไม่คุ้มค่า ตอนนั้นทำงานประจำเลยรับทำเล็บในรูปแบบดีลิเวอรี ช่วงหลังเลิกงาน ทำวันละ 2 คิว คือ 1 ทุ่ม และ 4 ทุ่ม ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่อยู่ตามคอนโดมิเนียม ทำแบบนี้มา 2 ปีได้รับการตอบรับอย่างดี จากการบอกปากต่อปาก เพราะเราใส่ใจในรายละเอียด มีคิวจองแน่น เวลาพักผ่อนไม่พอ จนต้องสละงานประจำออกมาเปิดร้านและรับทำตามคิวที่จองเท่านั้น ส่วนเบสท์ แฟนเมื่อก่อนทำงานประจำที่เดอะ มอลล์ ฝ่าย H&R เขาจะเป็นคนขับรถไปส่งตามคอนโดฯและมาช่วยล้างเล็บ สุดท้ายเขาก็ลาออกมาช่วยเต็มตัว พร้อมไปเรียนการทำเล็บทำสปาเพิ่ม แล้วมาช่วยกันทำ 2 คนโดยไม่มีลูกจ้าง ซึ่งลูกค้าบางคนก็เซอร์ไพรส์ที่มีช่างผู้ชาย เบสท์เลยทำแต่เล็บเท้า ไม่ทำเล็บมือ ส่วนหนุ่ม เบสท์–ธนนันทพันธ์ เปิดใจว่า ทีแรกตั้งใจแค่อยากช่วยแฟน นอกจากขับรถไปส่งแล้วก็อยากช่วยทำอะไรที่จะทำให้มันเร็วขึ้นได้ เลยช่วยล้างเล็บ ตัดหนัง ตนไม่รู้สึกอายและไม่ได้มองว่าไม่ใช่งานของผู้ชาย เพราะปกติก็ชอบทำสปาเล็บมือเท้าอยู่แล้ว ชอบทำให้มันสะอาด และตอนเด็กก็มักตามแม่ไปร้านนวดหน้า นั่งรอแม่ผมตลอด ซึ่งที่บ้านก็ไม่ได้ว่าอะไรที่ออกมาทำ ส่วนลูกค้าบางคนคิดว่าตนเป็นเพื่อนสาว เมื่อถามถึงธุรกิจที่สร้างมาด้วยความบากบั่น ทั้งคู่บอกว่า นี่เป็นธุรกิจที่เรารักทำกัน 2 คน ไม่จ้างลูกจ้าง เพราะไม่แน่ใจว่าเขาจะทำละเอียดแบบเราไหม ธุรกิจมีเซตอนที่เจอวิกฤติโควิดต้องปิดหลายเดือน ต้องเอาเงินทุนเก่ามาใช้ การออกจากงานประจำมาทำธุรกิจของตัวเองแบบนี้ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่สิ่งที่ได้จากงานนี้ นอกจากรายได้แล้วเรายังได้ความสุขทางใจ

ซึ่ง แนท บอกว่า “ เราชอบในผลลัพธ์ที่ได้ทางจิตใจ คือ เพื่อนใหม่ ลูกค้าที่ทำดีลิเวอรีวันแรกทุกวันนี้ยังอยู่ ทำให้รู้สึกว่าเขาเติบโตไปกับเรา ตอนที่ลาออกมาทำ ที่บ้านก็ไม่ค่อยเห็นด้วย แต่เมื่อเขาเห็นว่าเราไปได้ เห็นการเปลี่ยนแปลง พ่อแม่ก็เลยยอมรับ เราเคยคิดว่าเมื่อถึงช่วงอายุหนึ่งเราก็ต้องออกจากงานมาทำอะไรที่อยากทำ เพียงแค่เราเจอสิ่งที่เราอยากทำก่อน เราเลยได้ออกมาทำตามฝันค่ะ”

เชฟบี–ผกามาส
เชฟบี–ผกามาส
เชฟเบน–วุฒิเดช
เชฟเบน–วุฒิเดช

สาวขยันคนนี้บอกอีกหนึ่งคู่เพื่อนร่วมอาชีพที่มีฝันเดียวกันเลยจับมือกันมาสร้างให้เป็นจริง เชฟบี–ผกามาส ลิ้มกุล และ เชฟเบน–วุฒิเดช บุญช่วยบวร คู่หุ้นส่วนร้านอาหารแนวฟิวชัน GODFATHER-19BKK วังหิน ลาดพร้าว 48 ซึ่งทั้งคู่นำประสบการณ์ทำครัวจากร้านดัง 7-8 ปี มารังสรรค์เมนูและรสชาติให้เป็นที่แตกต่างถูกใจนักชิมรุ่นใหม่ “เราทั้งคู่อยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง จากที่เราเป็นเชฟที่เคยทำงานร่วมกัน เรามี passion ในการทำงานธุรกิจนี้ พอช่วงโควิดเลยเห็นโอกาสเลยมาทำอาหารขายทางออนไลน์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการ แต่ตอนนี้สามารถนั่งทานที่ร้านได้เราเลยเปิดบ้านทำเป็นร้านอาหาร พอมีร้านของตัวเองก็รู้สึกสนุกไปพร้อมๆ กับการปรับตัวที่ต้องสร้างความแตกต่างในธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง ทำอย่างไรให้ลูกค้ากินแล้วอยากจะไปบอกต่อ เราเริ่มจากอาหารต้องดูน่ากินมากๆ แค่ได้เห็นก็อยากมากินแล้ว และเมื่อเข้ามากินก็ต้องรู้สึกอร่อย ซึ่งที่ผ่านมาผลตอบรับเป็นไปตามที่คิดแต่เราก็คิดว่าจะไปต่ออย่างไร ในทุกๆวันเรามีการวางแผน เพื่อประสบความสำเร็จทางด้านอาหาร” สองเชฟรุ่นใหม่พร้อมลุย บอกในตอนท้าย.


ส่งหน้านี้ให้เพื่อน