เรียล แอสเสทฯ เดินหน้าเทกฯ “A Space Mega” หนุนพอร์ตคอนโดฯ เปิดขายจริง 18-19 มิ.ย.นี้

ส่งหน้านี้ให้เพื่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เรียล แอสเสทฯ เสริมแกร่งเติมพอร์ตคอนโดฯ หลังเข้าเทกโอเวอร์โครงการ เอ สเปซ เมกา คอนโดฯ แห่งแรกใจกลาง MEGA CITY BANGNA จากกลุ่มบริษัท อารียาฯ เผยกระแสตอบรับแรงเกินคาด มั่นใจทำเลศักยภาพเติบโต พร้อมอัดโปรโมชันพิเศษ! 18-19 มิ.ย.นี้ “ไนท์แฟรงค์ฯ” เผยศักยภาพบางนาบูมมาก ภาครัฐและเอกชนหว่านเม็ดเงินลงกว่า 5 แสนล้านบาท

นายณัฏฐพร กลั่นเรืองแสง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานกลยุทธ์ธุรกิจ บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอป เม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมที่จะเดินหน้าตามแผนการลงทุน เพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยของตลาดผู้บริโภคทั้งที่อยู่อาศัยแนวราบ (บ้านเดี่ยว บ้านแนวคิดใหม่ ทาวน์โฮม) และแนวสูง (คอนโดมิเนียม) ให้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ โดยจะเน้นทำเลที่มีศักยภาพและมีกำลังซื้อสูง หนึ่งในนั้นคือ พื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก โซนบางนา-ตราด

บริษัทฯ มองเห็นช่องว่างของตลาดเรียลดีมานด์ย่านบางนา-ตราดแห่งนี้ และด้วยศักยภาพของทำเลที่อยู่ติดไลฟ์สไตล์มอลล์ขนาดใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ อย่าง MEGA BANGNA ที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ครบทุกรูปแบบ รวมทั้งการเติบโตทางด้านราคายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“การได้โครงการ เอ สเปซ เมกา เข้ามาเพิ่มในพอร์ตคอนโดฯ ทำให้บริษัทฯ เติบโตขึ้นและสามารถสร้างรายได้ทันที โดยโครงการได้รับผลตอบรับดีเกินคาด มียอดขายที่ทำได้แล้วกว่าร้อยกว่า 85 ซึ่งถือว่าเกินกว่าเป้าหมายที่บริษัทวางไว้” (อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง : https://mgronline.com/stockmarket/detail/9630000096389)

นายณัฏฐพร กล่าวถึงเหตุผลที่โครงการ เอ สเปซ เมกา ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ซึ่งสะท้อนผ่านยอดขายนั้นจะมีอยู่ 3 องค์ประกอบหลัก คือ

1.ทำเลที่ตั้ง (Location) ด้วยศักยภาพทำเลที่ตั้งของโครงการ เอ สเปซ เมกา คอนโดแห่งแรกใจกลาง MEGA CITY BANGNA ไลฟ์สไตล์มอลล์ ถนนบางนา-ตราด ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองใหญ่กว่า 400 ไร่ ใช้ชีวิตท่ามกลางความ สะดวกสบายรอบด้าน รองรับไลฟ์สไตล์ชอป ชิม ชิลล์ พร้อมอิสระจากการเดินทางในการเลือกเส้นทางเข้าออกเมือง เชื่อมต่อแหล่งไลฟ์สไตล์ ติดศูนย์การค้า ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ทั้งสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษาระดับชั้นนำ ทั้งของภาครัฐและเอกชน อีกทั้งยังใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน 1 นาที จากทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนภิเษก และใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง (กำลังก่อสร้าง) เชื่อมต่อกับส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ

2.การออกแบบ คอนโดมิเนียมสูง 35 ชั้น ออกแบบในสไตล์ FUTURISTIC MODERN DESIGN ใช้เส้นสายที่สะท้อนถึงคนยุคใหม่ รวมถึงการใช้วัสดุโทนสีสดใสดูสนุกสนาน พร้อมอัปพลังขับเคลื่อนความ ACTIVE ได้เต็มที่ในทุกๆ วัน ออกแบบมาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่ไม่จำกัดตลอด 24 ชั่วโมง ภายใต้แนวคิด “THE COMPLETE LIFESTYLE HUB เมืองใหม่ในเมืองใหญ่” เติมเต็มไลฟ์สไตล์ครบครัน บนเนื้อที่โครงการกว่า 4 ไร่ จำนวน 1 อาคาร (แบ่งเป็น Zone A – Zone B) จำนวนยูนิตพักอาศัย 1,328 ยูนิต และจำนวนร้านค้า 8 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,166 ล้านบาท มีห้องพักอาศัยแบบ 1ห้องนอน ขนาด 28.52-34.97 ตารางเมตร (ตร.ม.) และแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 56.73-62.55 ตร.ม. ราคาขายเฉลี่ยทั้งโครงการ 69,000 บาทต่อ ตร.ม. โดยราคาเริ่มเพียง 1.79 ล้านบาทต่อยูนิต* เท่านั้น

3.ส่วนกลาง ลงตัวกับพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ถึง 5 ชั้น ปกคลุมด้วยพื้นที่สีเขียวกว่า 2.6 ไร่

นายณัฎฐา คหาปนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ทีมบริหารงานขายซึ่งมีความเชี่ยวชาญอย่างดีในตลาดฝั่งกรุงเทพฯ โซนตะวันออก กล่าวถึงศักยภาพทำเลย่านบางนา ว่า บางนาเป็นยุทธศาสตร์ทำเลที่มีกำลังซื้อสูง และเป็นพื้นที่เชื่อมโยงเส้นทางไปสู่พื้นที่ EEC ภาคตะวันออกของประเทศ ไทย (Eastern Economic Corridor เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) ทำให้ผู้พัฒนาอสังหา มีความเชื่อมั่นด้านกำลังซื้อ

ในทำเลนี้มีการพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่อง บางนาจึงกลายเป็นทำเลที่มีทั้งที่อยู่อาศัย สนามบิน ศูนย์ประชุม ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ สนามกอล์ฟ อาคารสำนักงาน และที่สำคัญ เป็นแหล่งรวมโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดด้านฐานะและกำลังซื้อที่ดีอย่างหนึ่ง อีกทั้งบนเส้นถนนบางนา-ตราด มีโครงการขนาดใหญ่ที่เป็น Magnet ทั้งโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและขั้นเตรียมการ ซึ่งมีเม็ดเงินลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนรวมกันไม่น้อยกว่า 5 แสนล้านบาท

สำหรับภาพรวมโครงการคอนโดฯ บริเวณบางนาในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา จากเดิมมีราคาต่อตารางเมตรอยู่ที่ 60,000-80,000 บาท ปัจจุบันเริ่มมีคอนโดฯ ระดับราคา 100,000 บาทต่อตารางเมตรในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีโครงการมิกส์ยูส คอนโดฯ ระดับไฮเอนด์ที่ผสมผสาน Wellness Flagship ที่อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการ ซึ่งมีระดับราคาสูงตั้งแต่ประมาณ 160,000- 450,000 บาทต่อตร.ม.เกิดขึ้น

ขณะเดียวกัน พบว่ามีโครงการคอนโดมิเนียมระดับกลางเป็นกลุ่มสินค้าที่น่าสนใจ ให้ผลตอบแทนจากราคาค่าเช่าสูง เมื่อเทียบกับราคาเสนอขาย หรือคิดเป็น Yield ที่ประมาณ 5% ซึ่งในอนาคตเมื่อโครงการเมกะโปรเจกต์ต่างๆ ทยอยเปิดให้บริการจะเป็นผลบวกต่อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

โครงการ เอ สเปซ เมกา ประกาศเปิดชมห้องจริงและส่วนกลางครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 18-19 มิถุนายน 2565 นี้ และจัดโปรโมชัน จองเพียง 5,000 บาท พร้อมห้องราคาพิเศษ! ในราคาเริ่ม 1.79 ล้านบาท* หรือเพียง 62,000 บาท/ตร.ม.* เท่านั้น และสำหรับลูกค้าที่สนใจชุดเฟอร์นิเจอร์แบบครบเซตพร้อมเครื่องใช้ไฟ้ฟ้า โครงการจัดเตรียมแพกเกจเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า* ให้ในราคา 1 แสนบาท สามารถลากกระเป๋าเข้าอยู่ได้ทันที


ส่งหน้านี้ให้เพื่อน