หลังจากโควิดออกอาละวาดจนกระทบไปทั่ว โดยเฉพาะธุรกิจการบินที่ซบเซาหนัก หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้นบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ของ “หมอเสริฐ” – นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ซึ่งมีฐานลูกค้าเป็นชาวต่างชาติ โดยแอสเซทที่เคยสร้างความมั่งคั่งให้กับ BA ก็คือ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย หรือ SPF หรือที่หลายคนเรียกติดปากว่า กองทุนสมุย..!!

แต่พอมาเจอโควิด ต้องปิดประเทศ รวมทั้งการออกมาตรการต่าง ๆ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติหายไป ก็ทำให้ลูกค้าของ BA หายไปด้วย ส่งผลให้รายได้หดหาย สวนทางกับรายจ่ายที่ยังมีเสมอต้นเสมอปลาย จึงทำให้ BA ตัดสินใจยกเลิกกองทุนสมุย ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ทั้ง ๆ ที่ยังเหลือสัญญาประมาณ 15.5 ปี…

ตอนนั้นหลังจากหักลบกลบหนี้กันแล้ว ยังมีเงินทอนก้อนใหญ่ราว 18,000 ล้านบาท มาขัดตาทัพต่อชีวิต BA..!!

จากวันนั้นถึงวันนี้เกือบ 1 ปีแล้ว ขณะที่สถานการณ์ต่าง ๆ เริ่มเปลี๊ยนไป๋ ซึ่งเริ่มเห็นเค้าลางตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ที่เริ่มมีการคลายล็อกดาวน์ มีการปรับเงื่อนไขการเข้าประเทศ ล่าสุดเตรียมยกเลิกการตรวจโควิดแบบ RT-PCR นักท่องเที่ยว แล้วเปลี่ยนเป็น ATK แทน คาดจะเริ่มต้นเดือน พ.ค.นี้ รวมทั้งรัฐบาลมีเป้าหมายจะประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่นวันที่ 1 ก.ค.2565 ทำให้ BA กลับมาคิดทบทวนใหม่ถึงแผนการทำธุรกิจต่อจากนี้…

หนึ่งในนั้น คือ การกลับไปสู่จุดเดิม ด้วยการตั้งบริษัทลูกที่ชื่อว่า บริษัท กรุงเทพ รีทแมเนจเมนท์ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 15 ล้านบาท เพื่อปูทางในการจัดตั้งทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือกองรีทอีกครั้ง..!!

ส่วนสินทรัพย์ที่จะขายเข้ากองรีทนั้น ก็หนีไม่พ้นสนามบินสมุย ซึ่งประกอบด้วย ทางวิ่ง ลานจอด และสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินบางส่วน ซึ่งใช้ในการดำเนินกิจการสนามบินสมุยนั่นแหละ

เท่ากับว่า กองรีทของ BA จะรีเทิร์นอีกครั้งแล้วนะสิ..!!

โอเค…แม้ BA จะสูญเสียความเป็นเจ้าของในแอสเซทสนามบินสมุยไป มาเป็นในฐานะผู้เช่าแทน แต่อย่างน้อย ๆ ก็จะได้เงินก้อนหนึ่งเข้ากระเป๋ามาก่อน…

ในขณะที่กลยุทธ์การตั้งกองรีทแล้วขายสินทรัพย์เข้ากองรีทนั้น มีข้อดีตรงที่ 1) บริษัทได้กำไรจากการขายสินทรัพย์ 2) บริษัทได้รับเงินปันผลจากการถือหุ้นในกองรีท และ 3) บริษัทได้ค่าจ้างจากการรับจ้างบริหารสินทรัพย์ (เพราะคงไม่มีใครจะมารู้ดีเท่าเจ้าของเดิม…จริงมั้ย)

เรียกว่า รับเละ..!! ถึง 3 ต่อเลยทีเดียว…

ส่วนเงินที่ใช้ซื้อสินทรัพย์เข้ากองรีทนั้น ก็ไม่ใช่เงินของบริษัทหรอกนะ…แต่เป็นเงินที่มาจากการระดมทุนของผู้ถือหน่วยต่างหากล่ะ…

เท่ากับว่า นอกจากบริษัทไม่ต้องควักเงินซักบาทแล้ว ยังมีรายได้กลับเข้ากระเป๋าอีกนะเนี่ย…

จึงไม่น่าแปลกใจที่มักเห็นบรรดาเจ้าสัวมักนำกลยุทธ์นี้มาใช้…เพราะมันมีดีอย่างนี้นี่เอง

กลับมาที่ BA…เรื่องรายละเอียดของการตั้งกองรีทจะเป็นอย่างไร..? คงต้องรอติดตามตอนต่อไป…

แต่บทสรุปของเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า พอ BA เห็นท่าว่าไม่ไหว…ก็ชิงยกเลิกกองสมุยไปก่อนเลย

ครั้นพอตั้งหลักยืนได้ ก็เอากองรีทกลับมาทำใหม่…นั่นหมายถึง การเตรียมล้วงเงินจากกระเป๋านักลงทุนอีกแล้วคร๊าบบบท่าน…

งานนี้ต้องบอกว่า “หมอเสริฐ” เขี้ยวลากดินจริง ๆ..!?

…อิ อิ อิ…