เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
AssetWise (ASW) ค่ายอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างผลงานไว้มากมายทั่วกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล การันตีด้วยคุณภาพ และประสบการณ์กว่า 18 ปี • แม้จะเพิ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ 10 เดือน และต้องฝ่าฟันกับวิกฤติโควิด-19 แต่ AssetWise ภายใต้การนำของคุณกรมเชษฐ์ กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร) ก็สามารถทำรายได้ทุบสถิติกว่า 8 พันล้านบาท และสร้างผลกำไรได้กว่า 900 ล้านบาท • วันนี้ Executive Talk by ShareInvestor จะพาไปพูดคุยกับCEOคนเก่งถึงสำนักงานใหญ่ของเขา
บทสัมภาษณ์ผู้บริหาร
บริษัท: บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) [ASW]
ชื่อ: คุณกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์
ตำแหน่ง: ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
• AssetWise (ASW) ค่ายอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างผลงานไว้มากมายทั่วกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล การันตีด้วยคุณภาพ และประสบการณ์กว่า 18 ปี
• แม้จะเพิ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ 10 เดือน และต้องฝ่าฟันกับวิกฤติโควิด-19 แต่ AssetWise ภายใต้การนำของคุณกรมเชษฐ์ กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร) ก็สามารถทำรายได้ทุบสถิติกว่า 8 พันล้านบาท และสร้างผลกำไรได้กว่า 900 ล้านบาท
• Executive Talk by ShareInvestor จะพาไปพูดคุยกับ CEO คนเก่งถึงสำนักงานใหญ่ของเขา
1. AssetWise มีการทำงานดำเนินงานในช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 อย่างไร?
ผมว่าโควิดก็เหมือนเป็นโจทย์ที่ทำให้ทุกๆบริษัทต้องแก้ปัญหาครับ ลำพังธรรมดาทำธุรกิจอย่างเดียว ก็อาจจะยากอยู่แล้ว แต่การมีโควิด ยิ่งทำให้เราต้องแสดงฝีมือ และแสดงศักยภาพของพนักงานทุกคนออกมามากขึ้น เราก็เป็นองค์กรที่รอดโควิดมาได้นะครับ เพราะว่าเราเพิ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯไปได้ประมาณซัก 10 เดือนนี้เอง เพราะฉะนั้น การเตรียมตัวก็ต้องเตรียมล่วงหน้ามา 2-3 ปี ก็เหมือนกับเป็นแบรนด์ที่เตรียมตัวระหว่างโควิด เราต้องเข้าเทรดในตลาดให้ได้ในช่วงโควิด และเราก็ทำได้ดีนะครับ ปีนี้เราจบผลประกอบการด้วยดีแม้มีโควิด เรามีการปรับตัวเยอะพอสมควร
2. มุมมองต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอาศัยทุกวันนี้ ตลอดจนแนวทางการขยายธุรกิจหรือการต่อยอดเป็นอย่างไร?
ผมมองว่าอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจหลักที่มีธุรกิจอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้องเยอะนะครับ แล้วก็เป็นสิ่งที่สำคัญ แม้ว่าอาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอะไรมากมาย แต่เป็นสิ่งจำเป็น อย่างน้อยก็เป็นปัจจัย 4 โดยเฉพาะในกรุงเทพฯและปริมณฑล ผมว่าเราก็เป็นแบรนด์ที่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้ผู้คนในกรุงเทพฯและปริมณฑลมายาวนานนะครับ ปีนี้ก็เข้าสู่ปีที่ 18 แล้ว แต่ว่า AssetWise มาทำคอนโดเยอะๆก็ราว ๆ 7-8 ปีนี่เอง เราก็ค่อยๆเติบโตเพิ่มขึ้น แต่ว่าจุดเปลี่ยนของอสังหาริมทรัพย์ ส่วนมากก็จะมาพร้อมกับการขยายตัวของแนวรถไฟฟ้า ในปีสองปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีโควิด แต่รถไฟฟ้าไม่เคยหยุดสร้างนะครับ มีรถไฟฟ้าสายใหม่ๆเพิ่มขึ้น อย่างเช่น สายสีชมพู สายสีเหลือง มันก็ทำให้ในมุมอสังหาริมทรัพย์ เกิดทำเลใหม่ๆ เมื่อรถไฟฟ้าออกไปหาชุมชนภายนอกเพิ่มขึ้น คอนโด หรือบ้านก็ไปเกาะแนวรถไฟฟ้า กลายเป็นแผนที่ใหม่ของกรุงเทพฯ
3. มุมมองเรื่อง Digital Asset คุณคิดว่าจะสามารถเชื่อมโยงกับอสังหาริมทรัพย์ได้หรือไม่ อย่างไร?
Digital Asset จริงๆก็เข้ามาหาเราทุกวันนะครับ วัยรุ่นหรือเด็กๆก็เข้าไปเทรดเหรียญกันเพิ่มมากขึ้น แต่ด้วยระบบ Blockchain ที่เป็นเทคโนโลยีทันสมัย ประกอบกับพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ เราก็คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เราจึงตั้งบริษัทย่อยชื่อว่า Digitonize ซึ่งเป็นบริษัทที่โฟกัสเรื่องนี้โดยเฉพาะ ในต่างประเทศเราสามารถระดมทุนผ่าน Digital Asset หรือระบบ Blockchain ได้นะครับ แต่ในเมืองไทย อาจจะยังเป็นเรื่องใหม่ ก็ต้องรอศึกษา แล้วก็ดูกฎเกณฑ์ให้พร้อม แต่ว่าเราก็เป็นบริษัทนึงที่ให้ความสนใจเรื่องนี้ อนาคตเราอาจจะมีแหล่งระดมทุนสำหรับพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากแหล่ง Digital Money ก็ได้นะครับ เราก็ยังอยู่ในช่วงศึกษา คงต้องดูอนาคตต่อไปว่าจะเปิดโอกาสให้มากแค่ไหน
4. กลยุทธ์ทางธุรกิจของ AssetWise สำหรับปีนี้ รวมถึงปีต่อๆไป เป็นอย่างไร?
Key หลักของเราคือการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้ดีขึ้น เราเป็น developer เราก็คงจะต้องทำธุรกิจนี้ไปอย่างยาวนานและต่อเนื่อง มีคุณภาพมากขึ้น มีแฟนคลับ มีลูกค้าไว้วางใจ มีความน่าเชื่อถือ สิ่งเหล่านี้มันไม่ได้อยู่ที่การโฆษณา หรือการทำ PR marketing แต่มันอยู่ที่โปรดักและคุณภาพของโครงการที่ส่งมอบให้ลูกค้า รวมถึง service นะครับ เมื่อเราส่งไปแล้ว ลูกค้าชอบ แล้วก็บอกต่อ ผมว่าอันนี้เป็นอะไรที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องได้มากกว่า เพราะฉะนั้น สิ่งที่เรามองก็คือการพัฒนาโปรดัก และบริการหลังการขาย แน่นอนต้องมีเรื่องความสวยงาม และราคาที่แข่งขันได้ ไปในทำเลใหม่ๆ ที่มีโอกาสเกิดขึ้น นี่คือสิ่งที่เรามองอยู่ครับ
5. หัวใจสำคัญของ AssetWise คืออะไร ?
จริงๆก็เป็นเรื่องของการปรับตัวนะครับ การปรับตัวของพนักงานให้เข้ากับสถานการณ์ จะเห็นว่าเราเป็นบริษัทที่ไม่ได้ใหญ่ เราเพิ่งเข้าตลาดก็จริง แต่เราก็สามารถเติบโตได้ มียอดขายที่ดี ปีนี้ (พ.ศ. 2564) เราก็มียอดขายทะลุขึ้นมาถึง 8 พันกว่าล้านบาท และในปีพ.ศ. 2565 นี้ เราตั้งเป้ายอดขายที่ประมาณหมื่นล้าน เป็นปีแรกที่จะทะลุหมื่นล้านนะครับ ส่วนด้านการรับรู้รายได้ ปีนี้ก็ all time high เหมือนกันนะครับ ประมาณ 5 พันกว่าล้านบาท สูงกว่าปีก่อน ที่ประมาณ 4 พันกว่าล้านบาท ก็เติบโตเกือบ 20% สำหรับเรื่องรายได้ แล้วก็ในสถานการณ์ที่หลายๆบริษัทเผชิญกับโควิด AssetWise เราก็สามารถทำกำไรได้ ปีนี้เราทำกำไรไว้ประมาณ 9 ร้อยกว่าล้านบาท ซึ่งถือว่าเยอะมากๆ ในช่วงที่มีโอกาสในการเปิดขายของแค่ไม่กี่เดือน เพราะมีการล๊อกดาวน์ และปัจจัยอื่นๆด้วย ดังนั้น Key สำคัญที่ทำให้เกิดความสำเร็จก็คือเรื่องของการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ จุดนี้คือ DNA ของพนักงานที่นี่ครับ นอกจากนี้ เราก็มี Core value ที่ว่าทุกคนต้องมีความสุขก่อน ถึงจะส่งต่อให้ลูกค้าได้ ถ้าเกิดพนักงานมีความสุข ก็จะส่งต่อให้พนักงานด้วยกัน ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือคู่ค้าด้วย การทำธุรกิจอย่างตรงไปตรงมา การมีศีลธรรมอะไรให้เรียบร้อย อย่างหนึ่งคือเรื่องของการหาความรู้ตลอดเวลา ทุกวันนี้จะเห็นว่ามีเรื่อง digital เข้ามาบ้าง เรื่อง crypto บ้าง metaverse บ้าง เราก็ต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆตลอดเวลา การทำงานเป็นทีม การรับผิดชอบต่อสังคม เหล่านี้เป็นสิ่งที่เราพยายามให้ทีมงานมองให้ครบทั้ง 5 ด้าน ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็ต้องปรับตามกลยุทธ์หรือตามสถานการณ์ด้วย เช่น สถานการณ์โควิด หรือสงคราม ดังนั้น การปรับตัวอยู่ตลอดเวลา จะทำให้เราเติบโตขึ้นได้ครับ
6. คุณให้นิยามความเป็น AssetWise และอยากให้คนรู้จัก AssetWise อย่างไร ?
กรอบหลักที่เราอยากจะให้ทุกคนรู้จัก AssetWise คือ เราให้อยากให้ผู้คนมองว่าเราเป็นบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพ เชื่อถือได้ มีแบรนด์หรือโปรดักที่หลากหลายให้ลูกค้าเลือกนะครับ เราไม่ได้ทำ budgeted condo อย่างเดียว เราทำ luxury housing ด้วย อยากให้มองเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งตรงนี้ เราไม่ได้แค่บอกว่าเราเป็น แต่เราพยายามทำด้วย ตอนนี้เราอาจจะยังไม่ได้เป็นแบรนด์ที่มีการยอมรับมากนัก แต่ว่ามันเป็นความสนใจของเราที่ว่าในอนาคตอีก 3 ปี หรือ 5 ปีข้างหน้า เราค่อยๆทำไป เราหวังว่าทุกคนจะเข้าใจ AssetWise ในมุมที่ดีขึ้นดีขึ้น
7. AssetWise ให้ความสำคัญกับเรื่อง ‘Grow Green’ในลักษณะใด?
เรื่อง ‘Grow Green’ จริงๆเป็น mindset ที่เราพยายามหล่อหลอมภายใน ว่าเราสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและสีเขียว ไม่ใช่แค่ในมุมของการปลูกต้นไม้ แต่เรามีการ workshop กับพาร์เนอร์ว่าเราจะออกแบบอย่างไร เราอยากให้เกิดการมีส่วนร่วมระหว่างคู่ค้าและ AssetWise ให้ช่วยกันมอง เราไม่ได้ตั้งตนเป็นผู้รู้ด้านสิ่งแวดล้อม เราอยากให้ทุกคนสอนเราด้วยซ้ำ ใครมีองค์ความรู้ เราก็จะให้เขาสอนเราด้วยสิ เรามีความรู้เราก็ออกแบบแบบนี้สิ มันไม่ใช่แค่การปลูกต้นไม้ แต่ยังรวมถึง energy saving การทำแผง solar cell หรือการออกแบบให้มี green space สิ่งเหล่านี้ ผมว่าถ้าทุกๆแบรนด์ช่วยกันทำ AssetWise ทำแล้วดี มีตัวอย่างที่ดี แล้วหลายๆแบรนด์ก็ทำ ผมว่า developer ทั้งกรุงเทพฯ หรือทั้งเมืองไทย สามารถทำให้เป็นไปในทางเดียวกันได้ เพื่อที่สุดท้ายคนที่ได้ผลประโยชน์ก็คือผู้บริโภค ผู้อยู่อาศัยในคอนโด และรอบๆคอนโดนั้น อันนี้เป็นสิ่งที่เราคิดไว้ ซึ่งมันอาจจะดูสวยงาม แต่ว่าต้องค่อยๆทำขึ้นไป
เรามี Tagline ที่ชื่อว่า ‘We build Happiness’ เพราะเราเชื่อว่าอสังหาริมทรัพย์เป็นสิ่งที่คนเราใช้ชีวิตอยู่กับมันหลายชั่วโมง เราทำงานกันเสร็จ เราก็ต้องกลับบ้าน หรือคอนโด เราคิดว่าครึ่งชีวิตของคน จะอยู่ใน asset ที่เรากำลังทำอยู่ เพราะฉะนั้นเรากำลังทำสิ่งที่สำคัญนะครับ ไม่ว่าจะเป็น facilities ตัวห้อง หรือ service ต่างๆ ล้วนทำให้ลูกค้ามีความสุขได้ ถ้าเราคิดว่าบ้านที่ดี ทำให้ชีวิตคนดี มันก็เหมือนกับเราสร้างความสุขให้ทุกๆชีวิต เพราะฉะนั้นเราจะบอกพนักงงานทุกคนเสมอว่าเราทำสิ่งที่สำคัญ มันไม่ใช่แค่การทำคอนโดแล้วขายทิ้งไป แต่มันอาจจะเป็นครึ่งชีวิตของเขาเลยก็ได้ มันก็เลยมีเรื่องอื่นๆมากกว่าแค่ว่าคอนโดกี่ตารางเมตร หรือราคาเท่าไหร่ เราใส่ design service หรือ value อื่นๆเข้าไปในคอนโดเรา เท่าที่เราจะจินตนาการได้ อันนี้คือ DNA ที่เราพยายามให้ทุกคนใน AssetWise คิดตามนั้นครับ