New China Insights : การระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ในจีนกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ

ส่งหน้านี้ให้เพื่อน

นครเซี่ยงไฮ้ระหว่างล็อกดาวน์เมืองเพื่อควบคุมโควิด-19 ภาพเมื่อวันที่ 30 มี.ค.2022 (แฟ้มภาพรอยเตอร์)

โดย ร่มฉัตร จันทรานุกูล มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และธุรกิจระหว่างประเทศ (UIBE) วิทยาลัยนานาชาติ (SIE) กรุงปักกิ่ง





การแพร่ระบาดโควิดระลอกใหม่ในประเทศจีน มีเมืองสำคัญทางเศรษฐกิจอย่างเซี่ยงไฮ้เกิดการระบาดหนักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจนต้องปิดเมือง ที่ผ่านมาเซี่ยงไฮ้ไม่เคยใช้นโยบายการปิดเมือง แต่เน้นที่การบริหารจัดการควบคุมในวงแคบอย่างตรงจุดเพื่อลดผลกระทบให้น้อยที่สุด และที่ผ่านมา เมืองที่เปิดรับสายการบินระหว่างประเทศมากที่สุดเมืองหนึ่งก็คือเมืองเซี่ยงไฮ้ เมื่อเซี่ยงไฮ้จำเป็นต้องปิดเมืองควบคุมโควิด-19 แน่นอนว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นคือ กิจกรรมทางเศรษฐกิจภาคประชาชน การทำงาน การขนส่ง ภาคบริการที่ต้องมีการสัมผัสกันระหว่างผู้คนหยุดชะงัก ในด้านสาธารณสุข สถานพยาบาลที่ต้องรับมือกับการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของผู้ป่วย การบริการภาคประชาชนที่ทุกคนออกไปไหนไม่ได้ ข้าวสารอาหารแห้งน้ำดื่ม ปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต ต้องมีอาสาสมัครประจำหมู่บ้านช่วยส่งให้ ตรงนี้เป็นเรื่องท้าทายความสามารถของรัฐบาลท้องถิ่นอย่างมาก

แล้วผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจรอบใหม่ระบาดหนักขนาดไหน? แม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจของจีนในช่วง 2 เดือนแรกปีนี้จะโตเกินความคาดหมาย หน่วยงานด้านเศรษฐกิจจีนคาดการณ์ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกนี้อาจทำให้ GDP ในไตรมาสแรกของจีนในปีนี้ติดลบ -0.3% ถึง-0.7% อุตสาหกรรมบริการและการบริโภค ร้านค้าต่างๆ ได้รับผลกระทบอย่างมาก ผู้อ่านอาจจะพอจินตนาการกันได้โดยตั้งแต่เดือน มี.ค.เป็นต้นมา โรคระบาดนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วประเทศจีนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี และสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไข่มุก ซึ่งเป็นเมืองแถบชายฝั่งทะเลตะวันออกของจีน

ภายใต้ข้อกำหนดด้านการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในสถานที่ต่างๆ ทำให้การเคลื่อนย้ายเดินทางของผู้คนภายในเมืองและข้ามมณฑลในศูนย์กลางเศรษฐกิจนี้ลดลงอย่างมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อการบริโภคและการท่องเที่ยว การเดินทาง เศรษฐกิจหยุดชะงัก รายงานการวิจัยที่เผยแพร่โดยบริษัทหลักทรัพย์ Minsheng Securities ระบุตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการบริการ เช่น ปริมาณผู้โดยสารรถไฟใต้ดิน ปริมาณธุรกรรมของธนาคารและดัชนีความแออัดในเมืองต่างๆ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยหลังเดือน มี.ค. ปริมาณผู้โดยสารรถไฟใต้ดินลดลงสู่ระดับต่ำสุดในช่วงเวลาเดียวกันในรอบเกือบ 5 ปี

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจตราย่านชอปปิ้งของนครเซี่ยงไฮ้ ขณะบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ในเขตผู่ตง ภาพวันที่ 29 มี.ค.2022 (แฟ้มภาพรอยเตอร์)

การสำรวจเมื่อเร็วๆ นี้ทโดยสมาคมธุรกิจค้าปลีกเซินเจิ้น แสดงให้เห็นว่าในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่โควิด-19 ระบาดหนัก อุตสาหกรรมเครือข่ายค้าปลีกของเซินเจิ้นต้องเผชิญกับการปิดกิจการครั้งใหญ่ นอกจากสูญเสียรายได้ ยังต้องแบกรับต้นทุนค่าเช่า กำลังคน การสูญเสียสินค้า และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่นๆ สำหรับซูเปอร์มาร์เกต ห่วงโซ่อุปทานสินค้าเกษตร และบริษัทต่างก็ต้องรับแรงกดดันเพิ่มในด้านแรงงาน วัสดุสิ้นเปลืองและค่าใช้จ่ายอื่นๆ โดยมีบริษัทมากกว่า 30% ที่ทำการสำรวจสูญเสียรายได้มากกว่า 10 ล้านหยวน จากการปิดกิจการเพียงสัปดาห์เดียวเท่านั้น

การแพร่ระบาดยังส่งผลกระทบถึงอุตสาหกรรมการผลิตและการขนส่ง อย่างเช่น ในเซี่ยงไฮ้ปริมาณงานของศูนย์กระจายสินค้าของบริษัทจัดส่งของรายใหญ่ลดลงมากกว่า 17.4% จากการปิดเมืองเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น

โชคดีที่ผลกระทบของโรคระบาดครั้งนี้ส่งผลต่อการผลิตภาคอุตสาหกรรมไม่มากนัก ภาคการผลิตของประเทศโดยรวมยังไปได้ดีอยู่ นักวิเคราะห์จาก Minsheng Bank วิเคราะห์ว่าโรงงานสามารถผลิตและเก็บสินค้าไว้โกดังก่อนได้เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบของโควิด-19 ที่อาจจะทำให้เกิดการหยุดผลิต แต่ยังสามารถส่งของได้ เพราะต้นทุนการเปิดและปิดโรงงานค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมวัตถุดิบต้นน้ำ อย่างในบริเวณเมืองถังซาน มณฑลเหอเป่ย ที่เกิดการระบาดโรคโควิด-19 จนต้องปิดเมือง อัตราการใช้ไฟฟ้าของโรงงานอุตสาหกรรมลดลงเพียง 5% เท่านั้น

ในการระบาดระลอกเดือน มี.ค.นี้ เมืองต่างๆ ของจีนทั่วประเทศได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 คิดเป็น GDP 37.6% ของทั้งประเทศ ถือว่าการระบาดที่เกิดขึ้นกินวงกว้างและหลายเมืองสำคัญของจีนพบการระบาด อย่างในปักกิ่งขณะนี้อยู่ในช่วงของการเฝ้าระวังขั้นสูงสุด เช่น การจำกัดการเข้าและออกเมืองปักกิ่ง การตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนชั่วคราวให้แก่ผู้สูงอายุที่มากกว่า 60 ปี เป็นต้น และจำนวนเมืองที่ได้รับผลกระทบแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีเลยทีเดียว

Luo Zhiheng หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Yuekai Securities วิเคราะห์ว่า การระบาดของโควิด-19 ระลอกนี้จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเศรษฐกิจและสังคม การบริโภคตามร้านค้าที่ถูกจำกัด การท่องเที่ยว การจัดเลี้ยงและการขายอสังหาริมทรัพย์ลดลงอย่างมาก การก่อสร้าง การขนส่งสินค้าหยุดชะงักลง ด้วยเหตุนี้คาดว่าอัตราการเติบโตของ GDP เมื่อเทียบปีที่แล้วไตรมาสแรกอาจลดลงเหลือประมาณ 4.8% เท่านั้น

พนักงานบริษัทเดลิเวอรีกำลังส่งอาหารให้ผู้อาศัยในเขตปิด ก่อนเริ่มล็อกดาวน์เฟส 2 ที่เขตผู่ซีของเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเริ่มในวันที่ 1 เม.ย.2022 (ภาพรอยเตอร์)

ด้านรัฐบาลกลางพยายามดำเนินนโยบายต้านผลกระทบจากโรคระบาด คือการคงอัตราการเติบโตของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานโดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจลดผลกระทบจากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่ง และรายงานการทำงานของรัฐบาลประจำ 2022 นี้ระบุไว้ชัดเจนว่า เน้นที่การรักษาเสถียรภาพในตลาดและสร้างความมั่นใจในการจ้างงาน การปรับปรุงนโยบายต่างๆ เช่น การลดภาระและการบรรเทาทุกข์ และการรวมรากฐานสำหนรับการดำเนินงานทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและการปรับปรุงคุณภาพ รวมถึงการดำเนินการตามนโยบายสนับสนุนด้านภาษีและค่าธรรมเนียมใหม่ ขยายการสนับสนุนทางการเงินให้ผู้ประกอบการรายเล็ก ส่งเสริมการลดต้นทุนการผลิตและการดำเนินงานขององค์กร เอื้อประโยชน์และสนับสนุนธุรกิจรายย่อยมากขึ้น

เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับและบริหารทรัพย์สินของรัฐได้ออกประกาศเกี่ยวกับการลดค่าเช่า โดยเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ให้เช่าที่ที่เป็นรัฐวิสาหกิจหรือเป็นที่ของรัฐจะยกเว้นค่าเช่าเป็นเวลา 6 เดือน (พื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงจะได้รับการยกเว้นค่าเช่าสูงสุด 6 เดือนในปีปัจจุบัน หรือลดลงหรือยกเว้นในปีถัดไป) ลดค่าเช่า 3 เดือนในพื้นที่อื่นๆ ที่ไม่ใช่พื้นที่เสี่ยงสูง

คณะกรรมการกำกับและบริหารทรัพย์สินของรัฐระบุว่า อุตสาหกรรมการบริการเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจของประเทศ วิสาหกิจขนาดเล็กและพาณิชยกรรมแต่ละรายในอุตสาหกรรมบริการมีบทบาทสำคัญในการทำให้ตลาดในประเทศเจริญรุ่งเรือง ส่งเสริมการจ้างงาน และเนื่องจากผลกระทบของโรคระบาดโควิด-19 และปัจจัยที่ไม่เอื้ออำนวยอื่นๆ ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กกำลังเผชิญกับวิกฤต จนรัฐบาลต้องเข้ามาอุ้ม

ในเวลาเดียวกัน นโยบายการช่วยเหลือทางการเงินฉุกเฉินก็ได้รับการอนุมัติแล้วในพื้นที่ต่างๆ ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ กวางตุ้ง เทียนจิน เจียงซู เซินเจิ้น และสถานที่อื่นๆ ได้ลดภาษีและค่าธรรมเนียม ลดหย่อนหรือยกเว้นค่าเช่า เงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ออกเงินกู้เพิ่มขึ้น เพื่อบรรเทาภาระให้ธุรกิจเอกชน ตัวอย่างเช่น สำนักงานทั่วไปของรัฐบาลเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ได้ออกนโยบายและมาตรการหลายประการสำหรับเซี่ยงไฮ้เพื่อต่อสู้กับโรคระบาดอย่างเต็มที่เพื่อช่วยองค์กร ส่งเสริมการพัฒนาโดยเสนอลดภาษี ลดค่าธรรมเนียม การลดค่าเช่า เงินอุดหนุนเพื่อให้ธุรกิจรักษาเสถียรภาพของตัวเองไปได้ นโยบายบรรเทาทุกข์เพื่อช่วยเหลือวิสาหกิจ การประมาณการเบื้องต้นระบุว่า นโยบายที่เกี่ยวข้องกับภาษีเพียงอย่างเดียวสามารถลดภาระของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องและวิสาหกิจในเซี่ยงไฮ้ได้ประมาณ 1.4 แสนล้านหยวนในปี 2022 นี้

ชาวนครเซี่ยงไฮ้เข้าแถวยาวตรวจโควิด-19 ภาพวันที่ 29 มี.ค.2022 (แฟ้มภาพรอยเตอร์)

แต่นโยบายต่างๆ อาจจะไม่สามารถชดเชยผลกระทบจากโควิด-19 อย่างเต็มที่ 100% การระบาดครั้งนี้ส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจค่อนข้างมาก และการล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ในระลอกนี้ความเสียหายทางเศรษฐกิจยังไม่สามารถประเมินอย่างแน่ชัดได้ ซึ่งอาจจะมากกว่าที่คาดการณ์ไว้หากว่าการล็อกดาวน์นั้นลากยาวต่อไป

การผลิตภาคอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบในขอบเขตที่จำกัด แต่กิจกรรมการก่อสร้างได้รับผลกระทบในระดับหนึ่ง อย่างก่อนหน้าเซินเจิ้นจะถูกล็อกดาวน์เป็นเวลา 7 วันในช่วงกลางเดือน มี.ค. แต่ 5 เขตใน 10 เขตแห่งถูกปลดล็อกก่อนกำหนดหลังจากล็อกดาวน์ 4 วัน และโรงงานหลายแห่งมีการผลิตอยู่โดยใช้ “การจัดการแบบปิด” และมีโรงงานบางแห่งที่ปิดและหยุดเครื่องจักร บริษัทบางแห่งโอนใบสั่งผลิตบางส่วนไปยังมณฑลอื่นๆ ที่ไม่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดในการควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งวิธีนี้เป็นลดการหยุดชะงักของการผลิตโดยรวม ตัวอย่างเช่น ตามทีมวิจัยอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของ UBS ผู้ประกอบผลิตภัณฑ์ของ บริษัท Apple มีโรงงานในเจิ้งโจว (มากกว่า 50% ของกำลังการผลิตของผลิตภัณฑ์ iPhone) และเมืองเฉิงตู (โรงงานหลักสำหรับธุรกิจ PC) เนื่องจากโรงงานส่วนใหญ่ได้ดำเนินนโยบายป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวดแต่ว่าการแพร่ระบาดอาจทำให้ภาคอุตสาหกรรมเติบโตโดยรวมลดลง 0.5-1% ในไตรมาสแรกของปี

ผู้เขียนมองว่าอาจมีการแนะนำนโยบายการสนับสนุนการผ่อนคลายและอยู่ร่วมกับโควิด-19 มากขึ้น เพราะสถานการณ์การระบาดทั่วโลกและวิธีการรับมือที่เปลี่ยนไป แต่ในระยะเวลาอันใกล้นี้น่าจะยากที่จีนจะอยู่ร่วมกับโควิด-19 นักวิชาการจีนเชื่อว่าหากรัฐบาลจีนเร่งการอนุมัติโครงการต่างๆ และอัดฉีดเงินเต็มที่ในการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายพื้นที่เพื่อสนับสนุน SMEs และการบริโภคในครัวเรือน

อาสาสมัครหอบหิ้วสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวันไปให้ผู้อาศัยในผู่ตงที่ถูกปิด ภาพเมื่อวันที่ 28 มี.ค.2022 (แฟ้มภาพซินหัว)

นอกจากนี้ ธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า ปรับนโยบายทางด้านสินเชื่อเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจและภาคประชาชน นโยบายด้านอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มที่จะผ่อนคลายมากขึ้น รวมถึงการคลายข้อจำกัดสำหรับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และสินเชื่อของผู้ซื้อบ้าน การเพิ่มการก่อสร้างโครงการบ้านเช่าของรัฐ การช่วยบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในการปรับโครงสร้างหนี้ และลดข้อกำหนดการชำระเงินดาวน์สำหรับประชาชนที่อยากกู้ซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยเอง

แม้ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเต็มรูปแบบจากรัฐบาลเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเติบโต GDP 5.5% น่าจะเป็นไปได้ยาก เพราะรัฐบาลจีนต้องประเมินความเสี่ยงอย่างรอบด้านถ้าจะใช้การกระตุ้นเศรษฐกิจอัดฉีดแบบเต็มสูบ น่าจะเป็นไปในแนวทางที่ไม่กระตุ้นมากเกินไป แต่เน้นความชัวร์แบบ stay safe มากกว่า และหากในปีนี้จีนใช้การควบคุมโรคระบาดอย่างเข้มงวดเกือบตลอดทั้งปี การเติบโตทางเศรษฐกิจอาจลดลงเหลือ 4% เท่านั้น

สุดท้ายแล้ว ผู้เขียนมองว่ามาตรการและแนวทางที่จีนเลือกเดินมีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกัน การเผยแพร่และแนวทางหลักในประเทศจีนปัจจุบันยังคงเป็นการเน้นการระงับการระบาดของโควิด-19 แบบไม่อยู่ร่วมอยู่สุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนในประเทศเป็นที่ตั้ง ประชาชนจีนจำนวนมากก็สนับสนุนในแนวทางนี้ แต่ทั้งนี้ต้องแลกมากับการหยุดชะงักทางเศรษฐกิจแบบชั่วคราวหลายครั้ง การระดมทรัพยากรด้านสาธารณสุขและด้านอื่นๆ ที่มากมาย ต้นทุนแฝงอื่นๆ อีกมากที่ต้องใช้ไปกับการบริหารงานป้องกันการระบาดโควิด-19 ทั่วประเทศ แน่นอนว่าประชาชนจีนก็อยากให้โรคนี้หายไปโดยเร็ว เพื่อทุกคนจะได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขอีกครั้งหนึ่ง


ส่งหน้านี้ให้เพื่อน