S คาดอัตราเข้าพักรร.ครึ่งหลังโต 75%-เปิดโครงการใหม่ปีหน้า 1.1 หมื่นลบ.

ส่งหน้านี้ให้เพื่อน

  S มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังแจ่ม รับธุรกิจโรงแรมสดใสอัตราเข้าพักโรงแรมโต 60-75% ด้านธุรกจิอสังหา คาดปีนี้โอนได้ 2,450 ลบ. ระบุปีหน้าเปิดโครงการใหม่รวม 1.1 หมื่นลบ. ด้านแผนการขายสิงห์คอมเพล็กซ์เข้ากองรีทชะลอไปก่อน ส่วนธุรกิจนิคมฯ ดีมานด์ลูกค้ายังพุ่งต่อเนื่อง

  นายชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S เปิดเผยในงาน Oppotunity Day ว่า ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจโรงแรมที่คาดว่าจะมีอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) มากขึ้นเฉลี่ย 60-75% หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลาย

  โดยธุรกิจโรงแรมในช่วงครึ่งปีหลัง ในประเทศไทยคาด Occupancy Rate ช่วงไตรมาสที่4/65 จะกลับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 60-75% , มัลดีฟช่วงพ.ย.-ธ.ค. อยู่ที่กว่า 75% , มอริเชียสช่วงไตรมาส 4/65 อยู่ที่ กว่า75% , ฟิจิเฉลี่ยครึ่งปีหลัง 75% , และสหราชอาณาจักรครึ่งปีหลัง 60-75%

  ด้านกลยุทธ์ธุรกิจโรงแรมในช่วงครึ่งปีหลัง 65 ถึงปี 66 บริษัทฯ จะเน้นการปรับปรุงอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพ เพื่อรองรับการฟื้นตัวจากการท่องเที่ยวหลังโควิด-19 ส่วนการลงทุนในแหล่งใหม่ๆ บริษัทฯ อาจพิจารณาในปี 66 แทน เนื่องจากการลงทุนหลังโควิดจะต้องใช้เวลาในการศึกษาและประเมินมุมมองในหลายมุม

  ส่วนธุรกิจที่อยู่อาศัยตั้งเป้าในปีนี้จะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ 2,450 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากโครงการที่มีอยู่เดิมทั้งหมด และมาจากโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในช่วงก.ย.นี้ ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวม 2,900 ล้านบาท จะทำให้รายได้ทั้งปีมีโอกาสทำได้ตามเป้าที่ 2,500 ล้านบาท ด้านสินค้ารอโอน(Backlog) มีมูลค่ารวม 2,651 ล้านบาท

  สำหรับงบประมาณ 5 ปีในการซื้อและการพัฒนาที่ดิน บริษัทจะใช้ 35,000 ล้านบาท โดยหลักๆ ใช้ในธุรกิจแนวราบสำหรับลูกค้าระดับบน ซึ่งในปี 66 บริษัทเตรียมเปิดตัว 4 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการรวม 11,000 ล้านบาท

  ด้านธุรกิจอาคารสำนักงานทั้ง 3 แห่ง บริษัทฯ ยังคงสามารถรองรับลูกค้าในแต่ละกลุ่มได้แตกต่างกัน ซึ่งครอบคลุมความต้องการลูกค้าได้มากขึ้น ซึ่งตึกใหม่ SOASIS ย่าน 5 แยกลาดพร้าว คาดว่าจะเปิดตัวตึกใหม่ช่วงครึ่งปีหลังนี้ ด้านแผนการขายสินทรัพย์อาคารสิงห์คอมเพล็กซ์เข้ากองรีทช่วงไตรมาส 3/65 นี้ บริษัทฯ ได้ชะลอแผนการขายไปก่อนโดยรอจังหวะที่เหมาะสมกว่านี้

  ส่วนธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมที่อ่างทอง ยังมีความต้องการจากกลุ่มลูกค้าเข้ามาดูพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯ วางเป้าหมายการโอน 20-25% ต่อปี รายได้ที่รับรู้เฉลี่ยปีละ 500-700 ล้านบาท/ปี มีระยะขายประมาณ 4-5 ปี ซึ่งปัจจุบันมีความคืบหน้าด้านการก่อสร้าง ซึ่งปี 66 จะมีโรงไฟฟ้าดำเนินการเชิงพาณิชย์ คาดว่าอัตราการขายจะดำเนินได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

ลักษณะธุรกิจของ S

พัฒนาและลงทุนในอสังหาริมทรัพย์


ส่งหน้านี้ให้เพื่อน