การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งล่าสุด เมื่อปี 2556 “พงศพัศ” นอนมาในโพลล์ทุกสำนัก
แต่สุดท้าย คน กทม.เลือกที่จะสั่งสอน “ระบอบทักษิณ”ตายคาคูหา
ด้วยการรวมพลังกัน กาให้ “ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ” เป็นผู้ว่าฯกทม.อีกสมัย
1. ปี 2552-53 ระบอบทักษิณบงการเผาบ้านเผาเมือง
ขณะนั้น ผู้ว่าฯกทม. “ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ” ปกป้องพระนคร
2554 เลือกตั้งใหญ่ ยิ่งลักษณ์ได้เป็นนายกฯ ทักษิณคิด เพื่อไทยทำผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย เหมาเข่งพ่วงคนโกง-คนเผาบ้านเผาเมือง
ต่อมา 2556 สนามผู้ว่าฯ กทม. แกนนำเสื้อแดงที่ได้เป็นรัฐมนตรีย่ามใจ ปราศรัยหาเสียงเชียร์ “พงศพัศ” สาบานว่าเพื่อไทยไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกเผาบ้านเผาเมือง ถ้าไม่เช่นนั้นขอให้มีอันเป็นไป และขอให้ประชาธิปัตย์ฉิบหายตั้งแต่เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เลย แต่ผลปรากฏว่า เพื่อไทยแพ้คน กทม.ช่วยกันลงคะแนนให้ ปชป.+ “ม.ร.ว.สุขุมพันธ์” ชนะ
2. หลังความพ่ายแพ้ของพรรคเพื่อไทย ทีมข่าวศูนย์ข่าว TCIJ เปิดรายงานลับ เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2556 สรุปบทเรียน ว่าด้วยเรื่อง “เปิดรายงานลับ 12 ข้อ แจง“ทักษิณ” รูรั่ว-รอยร้าวทำ“พงศพัศ”แพ้ผู้ว่าฯ”
ระบุว่า “…รายงานลับที่สุด สรุปเนื้อหา “12 ประเด็น” จึงถูกจัดทำขึ้น ในตึกที่ทำการพรรคเพื่อไทย เพื่อส่งตรงถึงนครดูไบ ประกอบด้วย
1.อีเวนต์ “คิดบวก” ไม่มีผลต่อการเพิ่มคะแนน ในคูหาการเลือกตั้งแต่ได้แค่กระแสการตอบรับจากสื่อ
2.ทีมงาน ที่เป็นเจ้าของพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ในทีมของ…ไม่ทุ่มเทอย่างเต็มที่
3.อีเวนต์การหาเสียง ไม่ได้จี้จุดอ่อน ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ บริพัตรผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์…
4.ทีมงานยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้งของพรรค หลงเชื่อผลโพลล์สำนักต่างๆ มากเกินไป จึงไม่คิดแก้เกมการเมือง ในช่วงโค้งสุดท้ายในการหาเสียง โดยก่อนเลือกตั้ง 2 วัน ผู้รับผิดชอบเรื่องเลือกตั้ง ยังรายงานที่ประชุมว่า “จะชนะแบบแลนด์สไลด์”
5.ทั้งทีมหาเสียง-ทีมยุทธศาสตร์มีความเชื่อว่า “เสียงเงียบ จะโหวตให้เพื่อไทย” จึงไม่ลงพื้นที่ระดับเคาะประตูบ้านที่มีรั้ว-คนในคอนโดมิเนียม
6.อีเวนต์ที่ถูกตอกย้ำให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ที่ว่า “ไร้รอยต่อ” ถูกตีความทางลบว่า “เป็นการยึดประเทศ” ยิ่งทำให้เสียคะแนนมากยิ่งขึ้น
7.พรรคเพื่อไทยไม่มีอีเวนต์ แบบ “เนกกาทีฟแคมเปญ” เพื่อตอบโต้คู่แข่ง อย่างเป็นระบบ
8.การจัดตั้งมวลชน และการหาเสียง การจรยุทธ์ ผ่านระบบโซเชียลมีเดีย ไม่ได้ทำอย่างจริงจัง เป็นระบบ ขณะที่ฝ่ายประชาธิปัตย์มีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบมากกว่า ทุกช่องทาง ทั้งเฟซบุ๊ค-ทวิตเตอร์-ความเห็นของบุคคลสำคัญที่ส่งสัญญาณเชียร์ หรือถล่มผ่านเว็บไซต์ต่างๆ
9.ในกฎกติกาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ระบุให้การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. การหาเสียงเลือกตั้ง สามารถประกาศชื่อรองผู้ว่าฯได้ แต่พรรคมีตัวเลือกจะประกาศ สังกัดหลายก๊ก และแต่ละก๊ก มีปัญหาแตกแยกกัน จึงไม่สามารถประกาศได้ ประกอบกับมีการปล่อยชื่อ นาย…ออกมา จึงทำให้ยิ่งเสียคะแนน ในช่วงโค้งสุดท้าย
10.การจัดโซนเลือกตั้ง และให้ 3 รัฐมนตรี รับผิดชอบตามเขตทั้ง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ, ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และ นายจารุพงศ์เรืองสุวรรณ ต่างฝ่ายต่างไม่ลงรอยกัน จึงทำให้การทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ
11.การจัดตั้ง “หัวคะแนน” ยังขาดระบบท่อน้ำเลี้ยงที่ชัดเจน มีการเกี่ยงการระบายน้ำเลี้ยงจากพรรค ทำให้เขตใหญ่ที่เพื่อไทยเคยชนะ แต่ผลการเลือกตั้งคราวนี้ อัตราคะแนนที่ได้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้
12.การหาเสียงระดับพื้นเขตที่ขาดมือไม้ระดับ สก.-สข. และไม่มีการทำพื้นที่ต่อเนื่อง หรืองานพื้นที่ชุมชนยังอ่อน ไม่แข็งแรง ทำให้ทีมยุทธศาสตร์ไม่สามารถคำนวณ-คาดการณ์-วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งได้แม่นยำ
เมื่อรายงานลับชิ้นนี้ส่งถึงมือทักษิณ ชินวัตร จึงเป็นที่มาของการคำรามผ่านระบบสไกป์เข้าไปในห้องประชุมทีมกุนซือพรรค และที่ประชุมพรรคถึง 2 รอบ…”
3. ผอ.เลือกตั้ง สก. พรรคเพื่อไทย มั่นใจ จะชนะแบบแลนด์สไลด์ใน กทม.
เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2565 นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง สก. พรรคเพื่อไทย แสดงความมั่นใจมาก ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการเลือกตั้ง สก. ระบุว่า กระแสการตอบรับพรรคเพื่อไทยดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมื่อถามว่า การเลือกตั้ง 50 เขต พรรคเพื่อไทยมั่นใจว่า สก. จะได้รับเลือกจากประชาชนกี่เขต?
นางพวงเพ็ชร ตอบว่า จากกระแสตอบรับของประชาชนคิดว่า สก. ของเพื่อไทยคงได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเกินครึ่ง
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยไม่ส่งผู้สมัครผู้ว่า นโยบายต่างๆ จะนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างไร?
นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า มั่นใจว่า สก. ของพรรคจะได้รับเลือกแบบแลนด์สไลด์ เมื่อได้ สก.เกินครึ่งของสภากรุงเทพมหานคร ก็มั่นใจว่าเราจะใช้เวทีสภาฯ กทม. ขับเคลื่อนนโยบายของเราให้เป็นรูปธรรม
4. พรรคเพื่อไทยไม่ส่งผู้สมัครชิงผู้ว่าฯกทม. ในนามของพรรค
แต่ผู้บริหารพรรคส่งสัญญาณเป็นนัยยะ ว่าสนับสนุนนายชัชชาติ
ส่วนนายชัชชาติ แม้จะปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยแล้ว ลงในนามอิสระ แต่ภาพการทำงานเคยใกล้ชิดเหนียวแน่นพรรคเพื่อไทยและตระกูลชินวัตร
ขณะเดียวกัน เลือกตั้งใหญ่ที่จะมาถึง พรรคเพื่อไทยประกาศมั่นใจ ทักษิณเคลื่อนไหวหนัก แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน เพราะทักษิณเองอยากจะกลับไทยแบบไม่ติดคุก
น่าสนใจว่า คน กทม. จะให้คำตอบในสนามแรกนี้อย่างไร?
คน กทม. ชอบที่นักการเมืองพรรคใดเที่ยวประกาศแลนด์สไลด์ ทั้งใน กทม.และในระดับประเทศ โดยเฉพาะในสนาม กทม.เองตั้งแต่ต้นทางแบบนี้ หรือไม่?
5. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง ผู้ว่าฯคนใหม่ ในหัวใจ ประชาชน (สำรวจระหว่างวันที่ 6 – 7 พฤษภาคม พ.ศ.2565)
เมื่อสอบถามถึงความตั้งใจจะเลือก ผู้สมัคร ผู้ว่าฯกทม. พบว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มีคะแนนพุ่งสูงขึ้นจากร้อยละ 20.6 ในครั้งที่ 4 มาอยู่ที่ร้อยละ 24.1
อันดับสองและสาม มีคะแนนสูสีกันมาก คือ นายสกลธี ภัททิยกุลเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 10.7 มาอยู่ที่ ร้อยละ 13.1 และนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 12.5 มาอยู่ที่ร้อยละ 13.0
ส่วน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.3 ในครั้งที่ 4 มาอยู่ที่ร้อยละ 8.4 ในครั้งล่าสุด
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลล์ชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เกือบทุกคนได้รับความนิยมจากประชาชนพุ่งสูงขึ้นและทุกคนยังคงมีโอกาสได้รับการเลือกตั้ง เพราะกลุ่มคนยังไม่ตัดสินใจยังมีอยู่จำนวนมากในขณะที่ ผู้สมัครบางคนอาจจะได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์ความอ่อนไหวเปราะบางในสังคมที่เกิดขึ้นในการรับรู้ของประชาชนคนกรุงเทพมหานคร ส่งผลทำให้คะแนนที่ได้มีอาการแกว่งตัวขึ้นลงได้อย่างรวดเร็วประกอบกับปัจจัยสำคัญอื่นๆ เช่น ภาพลักษณ์ส่วนตัวของผู้สมัคร (Personal Branding) นโยบาย การลงพื้นที่ การประชันวิสัยทัศน์ การโฆษณาประชาสัมพันธ์และภาพจำอดีตของประชาชน เป็นต้น อาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจของประชาชนในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
สารส้ม