คอนโดไทยเนื้อหอม 4 ปีต่างชาติหอบเงินซื้อ 2 แสนล้าน 'จีน' ยังครองแชมป์

ส่งหน้านี้ให้เพื่อน

คอนโดไทยเนื้อหอม 4 ปีต่างชาติหอบเงินซื้อ 2 แสนล้าน ‘จีน’ แชมป์ เขมร พม่า ลาว ไม่น้อยหน้า

เมื่อวันที่ 23 กันยายน นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์(REIC) เปิดเผยว่า จากการที่เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติมีสิทธิ์ถือครองกรรมสิทธิ์ในห้องชุดในสัดส่วน 49% ของพื้นที่ห้องชุด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้คนต่างชาติเข้ามาซื้อห้องชุดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ได้รวบรวมข้อมูลถือกรรมสิทธิ์ของคนต่างชาติตั้งแต่ปี 2561-2565 (ม.ค.-มิ.ย.) พบว่ามีคนต่างชาติรับโอนกรรมสิทธิ์จำนวน 47,288 หน่วย มูลค่า 207,660 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 9% ของจำนวนหน่วย และ 15% ของจำนวนมูลค่า

“เมื่อเทียบกับภาพรวมทั้งหมด ในจำนวนนี้พบว่าผู้ซื้อสัญชาติจีน เป็นกลุ่มที่มีการซื้อมากที่สุดถึง 27,738 หน่วย มูลค่า 116,833 ล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 60% ของคนต่างชาติที่เข้ามาซื้อห้องชุดในประเทศไทยในช่วงกว่า 4 ปีที่ผ่านมา แต่การซื้อของคนสัญชาติจีนก็ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562” นายวิชัย กล่าว

นายวิชัย กล่าวว่า สำหรับสัญชาติที่เข้ามาซื้อห้องชุดรองลงมาในกลุ่ม 5 อันดับแรก เช่น รัสเซีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา มีสัดส่วนของจำนวนและมูลค่าเพียงสัญชาติละ 2-3% ของการโอนกรรมสิทธิ์ของคนต่างชาติทั้งหมด

นอกจากนี้ยังพบว่ามี 9 ประเทศในอาเซียนที่เข้าซื้อด้วย ได้แก่ ประเทศสิงคโปร์ 960 หน่วย มูลค่า 5,410 ล้านบาท มาเลเซีย 617 หน่วย มูลค่า 3,278 ล้านบาท กัมพูชา 162 หน่วย มูลค่า 2,394 ล้านบาท เมียนมา 214 หน่วย มูลค่า 1,338 ล้านบาท อินโดนีเซีย 69 หน่วย มูลค่า 638 ล้านบาท ลาว 58 หน่วย มูลค่า 423 ล้านบาท เวียดนาม 38 หน่วย มูลค่า 178 ล้านบาท

“หากกำลังซื้อของคนต่างชาติยังมีความสำคัญต่อการดูดซับอุปทานห้องชุดในปัจจุบันและอนาคต ทางผู้ประกอบการอาจจะต้องหากลุ่มเป้าหมายใหม่ในการขยายตลาดผู้ซื้อของคนต่างชาติ เพื่อมาทดแทนกลุ่มผู้ซื้อสัญชาติจีนที่ยังเผชิญกับนโยบายซีโร่โควิดและภาวะอสังหาในประเทศตกต่ำ” นายวิชัยกล่าว

นายวิชัยกล่าวว่า โดยพบว่าการโอนกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อห้องชุดบางสัญชาติในปี 2564 มีการขยายตัวด้านจำนวนหน่วยสูงขึ้นอย่างชัดเจน เช่น สหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 51.63% เยอรมันเพิ่มขึ้น11.43% สิงคโปร์เพิ่มขึ้น10.74% ออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 27.10% อินเดียเพิ่มขึ้น 19.23% มาเลเซียเพิ่มขึ้น35% แคนาดาเพิ่มขึ้น 56.06% และกลุ่มประเทศยุโรปอีกหลายประเทศ เป็นต้น

ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการซื้อที่อยู่อาศัย และเป็นการส่งเสริมนโยบายส่งเสริมคนต่างชาติเข้ามาพำนักระยะยาว และการให้วีซ่าระยะยาว (LTR) แก่คนต่างชาติตามที่รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนอีกด้วย

QR Code LINE @Matichon

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก

Line @Matichon ได้ที่นี่

LINE @Matichon


ส่งหน้านี้ให้เพื่อน