เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ทวงถาม ‘ศาลอุทธรรณ์ภาค 5 -ธนารักษ์’ เร่งคืน ‘ป่าแหว่ง’ หลังยืดเยื้อ 4 ปี (คลิป)

ส่งหน้านี้ให้เพื่อน

เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 21 มีนาคม ที่โรงเรียนสืบสานภูมิปัญญาล้านนา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ นำโดยนายธีรศักดิ์ รูปสุวรรณ นายบัณรส บัวคลี่ นายชัชวาล ทองดีเลิศ นายอาณัติ คลังวิเชียร นางปลายอ้อ ทองสวัสดิ์ และ น.ส.ลักขณา ศรีหงส์ ร่วมกันแถลงขอคำตอบจากกรมธนารักษ์ และศาลอุทธรณ์ ภาค 5 เรื่องการคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ หรือ ป่าแหว่ง ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 4 ปี

นายธีรศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นมานานจนจะครบ 4 ปี ในวันที่ 29 เมษายน 2565 เพราะในวันเดียวกันเมื่อปี 2561 ชาวเชียงใหม่ออกมาแสดงจุดยืนขอคืนผืนป่าดอยสุเทพ ณ ข่วงประตูท่าแพ และในวันที่ 16 สิงหาคม 2561 ได้มีมติคณะกรรมการจังหวัดเชียงใหม่สั่งรื้อบ้านป่าแหว่ง 45 หลัง และคอนโดมิเนียม 9 หลัง ต่อมาในวันที่ 16 กันยายน 2563 ประธานศาลฎีกาในขณะนั้นได้ให้สัมภาษณ์ว่า ได้คืนบ้านป่าแหว่งแล้ว

“แต่ปลายปี 2563 ทางธนารักษ์กลับไม่ยอมรับมอบอาคารและพื้นที่ อ้างไม่มีกฎหมายรับรองที่จะรับมอบครุภัณฑ์ในบ้านพัก เช่น แอร์คอนดิชั่น โทรทัศน์ และเฟอร์นิเจอร์ และธนารักษ์ไม่อยากเข้าไปรับผิดชอบตัวอาคารและทรัพย์สิน จนกลางปี 2564 ศาลส่งเรื่องให้กรมบัญชีกลาง และกรมฯ แจ้งว่าให้มอบอาคารพร้อมครุภัณฑ์ในบ้านพักได้ แต่ต้นปี 2565 ทางธนารักษ์ยังดึงเรื่อง โดยส่งเรื่องให้ฝ่ายกฎหมายหาทางออก” นายธีรศักดิ์ กล่าว

นายธีรศักดิ์ กล่าวสรุปว่า ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างโยนเรื่องยื้อไปเรื่อยๆ นานกว่า 3 ปี 7 เดือน ไม่มีการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ทางฝ่ายราชการ ทางจังหวัดยังมีความคิดที่จะเอาบ้านพักไปใช้ประโยชน์ จึงร่วมกันดึงเรื่อง ไม่ยอมทำตามมติที่เคยสรุปว่าให้รื้อย้าย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ฝ่ายราชการได้งบปลูกป่าในพื้นที่นี้ 9 ล้านบาท แต่ไม่มีการดำเนินการ

“สิ่งที่น่ากังวลใจ คือ กรณีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 จะย้ายไปก่อสร้างที่ จ.เชียงราย ภายใต้งบประมาณ 737 ล้านบาท ที่เริ่มสร้างตั้งแต่ 24 ตุลาคม 2562 กำหนดแล้วเสร็จวันที่ 7 กันายน 2565 แต่เกือบ 3 ปีแล้ว ยังมีแต่เสาและโครง หรือ 10% เนื่องจากผู้รับเหมาทิ้งงานไปแล้ว เราได้กลิ่นจากผู้ว่าจ้างเรื่องเงินทอน หรือว่ามีใครบางคนไม่อยากย้ายไปเชียงรายเลยไม่ยอมสร้างอาคารต่อ และเริ่มมีการย้ายครอบครัวเข้าไปอยู่ในคอนโดมิเนียม อาคารชุด 9 หลังเพิ่มขึ้น” นายธีรศักดิ์ กล่าว

นายธีรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ทางเครือข่ายพร้อมประชาชนชาวเชียงใหม่ มีความประสงค์จะเข้าพื้นที่เพื่อปลูกป่าให้ทันก่อนฤดูฝนนี้ แต่ทางศาลยังปิดกั้นทางเข้าออก ไม่อนุญาตให้ใครเข้าพื้นที่ มีเจ้าหน้าที่ รปภ.หนาแน่น ล่าสุดเริ่มเปิดไฟส่องสว่างขึ้นไปจนถึงบ้านพัก 45 หลัง ซึ่งเป็นเรื่องไม่สมควรทำ เพราะรบกวนป่า หรืออยากแสดงว่ายังครอบครองอยู่ เราทราบเพราะประชาชนสามารถเข้าพื้นที่ได้ทางด้านข้าง แถวอ่างเก็บน้ำแม่เย็น จึงเห็นความเคลื่อนไหว เราจึงอยากถามศาลว่าต้องการให้มีคนเข้าไปอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ใช่หรือไม่ โดยเฉพาะตัวอาคารคอนโดมิเนียม 9 หลัง ที่มีคนเข้าไปอยู่ 30 ครอบครัวแล้วในตอนนี้

“เวลานี้สภาวะฝุ่นควัน และ PM 2.5 ในเขตเชียงใหม่ สูงขึ้นเรื่อยๆ เครือข่ายอยากให้ดอยสุเทพหายแหว่ง และกลับมาเขียวดังเดิม แต่จุดนี้ข้าราชการกลับเชื่องช้า ดึงเรื่อง ไม่ยอมทำตามมติจังหวัด บาดแผลป่าแหว่ง และไม่เป็นผลดีต่อสำนักงานศาลและผู้พิพากษาในเชียงใหม่ เพราะก็ยังโชว์ผลงานของคนทำลายป่า เป็นบาดแผลใจให้กับชาวเชียงใหม่ไม่จบสิ้น ความคิดของราชการคือ ยังอยากได้และคิดว่าจะเข้าไปอยู่ แต่เราขอประกาศว่า เราไม่เห็นด้วย และจะขอคัดค้านให้ถึงที่สุด ขอให้ปล่อยผุพังไปกับป่า หรือรื้อทิ้ง วันที่ 29 เมษายน 2565 คือวันครบรอบ 4 ปี การเดินขบวนประท้วงป่าแหว่ง หากทางการยังนิ่งเฉย ทางเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ อาจจะมีการเคลื่อนไหวใหญ่อีกครั้ง รวมทั้งยื่นฟ้องทุกหน่วยงาน โดยจะมีการหารืออีกครั้ง เพื่อรอดูท่าทีของศาลและธนารักษ์ และกำหนดกิจกรรมอีกครั้ง” นายธีรศักดิ์ กล่าว

ส่วนนายบัณรส กล่าวว่า เรื่องนี้คณะรัฐมนตรีเห็นด้วยและอนุมัติงบประมาณมาทำการฟื้นฟูป่า แต่ก็ยังไม่คืบหน้าไปไหน ในขณะที่ทรัพย์สินที่เป็นของหลวง หน่วยงานที่รับผิดชอบกลับเพิกเฉยทั้งที่มีข้อกฎหมายที่ดำเนินการได้ จากการติดตามเรื่องทำให้พบว่า ศาลไม่ได้มีความถนัดในการก่อสร้าง เพราะจะเห็นว่าไม่ว่าจะเป็นศาลพระโขนง ศาลที่เชียงราย หรือแม้แต่บ้านป่าแหว่ง การออกแบบผิดพลาดมาตลอดจนผู้ดำเนินการต้องคดีเสียเอง จึงอยากขอให้ศาลเร่งรัดทำเรื่องที่ถูกต้องและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็ว เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องเปลี่ยนประธานศาลฎีกาไปแล้ว 3 คน ธนารักษ์เชียงใหม่ 4 คน

ในขณะที่นายชัชวาล กล่าวเสริมว่า ชาวเชียงใหม่ติดตามเรื่องนี้แบบไม่กะพริบตา เพราะในเมื่อจะคืนก็ขอให้คืนให้สุด ทำให้เด็ดขาด ไม่ใช่ดึงเรื่องไว้เช่นนี้ ไม่เช่นนั้นชาวเชียงใหม่จะออกมาติดตามเบื้องลึกของเรื่องนี้อีกครั้งอย่างแน่นอน

QR Code LINE @Matichon

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก

Line @Matichon ได้ที่นี่

LINE @Matichon


ส่งหน้านี้ให้เพื่อน