ธุรกิจด้านการบริการและการโรงแรมในไทยอย่าง Tolani Hotels ( https://www.tolanihotels.com/ ) ที่ก่อตั้ง และ บริหารจัดการโดยผู้บริหารมากประสบการณ์มากมาน พร้อมแล้วกับการกลับมาของ อุตสาหกรรมการ ท่องเที่ยวไทย กับซีอีโอคนใหม่ที่มาพร้อมกับแผนพัฒนาการเติบโตในระยะยาว
คุณ Steve Lockhart ประธานกรรมการบริหารคนใหม่ของ Tolani Hotels ที่ทางบริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจ เพื่อ ให้นักลงทุนและเจ้าของโรงแรมสามารถไปถึงเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น
ในปัจจุบัน Tolani มีโรงแรมในเครือทั้งหมด 14 แห่งด้วยกัน และบริษัทยังคงขยายธุรกิจต่อไปเรื่อย ๆ ภายใต้ ชื่อแบรนด์ Tolani เพื่อเป็นการดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาทำธุรกิจ จากการเพิ่มตัวเลือกที่หลากหลาย ในการบริหาร จากการบริหารจัดการของแบรนด์ร่วมอย่าง ‘By Tolani’ เพื่อตอบโจทย์ให้เจ้าของโรงแรมภายใต้แบรนด์ Tolani สามารถเข้ามาร่วมธุรกิจที่ทาง Tolani ได้
“เป้าหมายของเราคือการช่วยเหลือเจ้าของโรงแรมที่มาร่วมในธุรกิจของเรา รวมถึงนักลงทุน ด้วยการปรับ การจัดการธุรกิจให้เหมาะกับทั้งสองฝ่าย หรือใจเขาใจเรา ไม่ใช่แค่ผลประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะผม เชื่อว่า การที่เราจะก้าวไปข้างหน้า เราจะต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับเจ้าของโรงแรม ให้เหมือนกับว่าเรา คือผู้เล่นในทีมเดียวกัน” คุณ Steve Lockhart กล่าวโดยประธานกรรมการบริหาร Tolani
ก่อนหน้านี้ ทาง Tolani จะนำเสนอข้อตกลงการจัดการโรงแรม (Hotel Management Agreements) หรือ HMA ที่มีความซับซ้อนและข้อตกลง ยังมีใจความที่มีความยาวหลายร้อยหน้า จนทำให้เจ้าของโรงแรมไม่ได้มีความ สนใจเท่าที่ควร ข้อตกลงดังกล่าว ถูกจัดทำขึ้นมาในลักษณะที่ให้ผลกำไรสูงสุดแก่ผู้ประกอบการในส่วนของ การจัดการ แต่ในขณะเดียวกัน ในเรื่องของตัวทรัพย์สิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวอาคาร เช่น การบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง การซ่อมแซม และการตกแต่งใหม่ อาจจะถูกละเลยไป ข้อตกลงในลักษณะแบบนี้ทำให้ความคล่องตัวทางการเงินของเจ้าของโรงแรมน้อยลง และยังสร้างภาระค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็นอีกด้วย
Tolani Hotels กับคอนเซปต์ “by owners, for owners” บทเรียนใหม่ที่ได้เรียนรู้หลังยุคโควิดระบาด คือการตระหนักได้ว่าทางเจ้าของโรงแรม ไม่ควรต้องถูกผูกมัดกับสัญญาแบบเก่า ที่ตัวสัญญามีผลนานกว่าสิบถึงสามสิบปี และไม่สามารถยกเลิกสัญญาได้ เว้นแต่ว่า ทางเจ้าของจะยอมจ่ายค่าธรรมเนียมการยกเลิกก่อนกำหนดในราคาที่สูงมาก
Toloni ยังยื่นข้อเสนอแบบเข้าใจง่ายในการทำข้อตกลงอย่าง Service Level Agreement หรือ SLA ที่เป็นข้อตกลงระดับการให้บริการระหว่างผู้ให้บริการและลูกค้า หรือเจ้าของโรงแรมนั่นเอง
ปัจจุบัน Tolani Hotels มีโรงแรมในเครือหลายแห่งด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ในอำเภอกุยบุรีและยังเป็นที่แรกของ Tolani และอีกมากมาย เช่น ทูลานี รีสอร์ท กุยบุรี, ทูลานี รีสอร์ท เกาะกูด, ทูลานี รีสอร์ท แอนด์ สปา เกาะสมุย, ทูลานี นิมมาน วิลล่า เชียงใหม่, ทูลานี นอร์ธเกต วิลล่า เชียงใหม่, ทูลานี เซาธ์เกต วิลล่า เชียงใหม่ และ ทูลานี เลอเบย์บุรี วิลล่า ปรานบุรี
สำหรับแบรนด์ร่วมอย่าง ‘By Tolani’ ได้มีข้อเสนอให้การบริหารจัดการโรงแรมในเครือ เช่น ลิมอนวิลล่า เขาใหญ่, สวัสดี ป่าตอง บาย ทูลานี, เดอะซี เกาะสมุย รีสอร์ท แอนด์ เรสซิเดนซ์ บาย ทูลานี และโรงแรมเธียรี สุขุมวิท บาย ทูลานี และได้มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมที่ดอนเมืองใหม่ ที่บ้านเฉวง และที่พัทยา และอยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2566 นี้ ภายใต้แนวคิดและแบรนด์ใหม่ทั้งหมด
คุณ Steve Lockhart ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ทางเราได้มองเห็นความต้องการและความเห็นมากมาย จากเจ้าของโรงแรมที่สนใจในเรื่องของการพัฒนาโรงแรมใหม่ ๆ รีแบรนด์เพื่อปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น สิ่งที่ทางเราพยายามทำความเข้าใจก็คือความต้องการของเจ้าของทางโรงแรม เพื่อที่จะช่วยให้ให้เจ้าของธุรกิจบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ จึงเป็นเหตุผลที่ในข้อตกลงของ Tolani ของเราได้ถูกออกแบบในแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้”
เพราะที่ Tolani เราเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นจากโควิดที่เพิ่งผ่านพ้นไป เลยเป็นเหตุผลว่าทำไม Tolani จึงประสบความสำเร็จในการปรับเปลี่ยน ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และเปลี่ยนตำแหน่งของอสังหาริมทรัพย์ เช่น ทูลานี เกาะกูด, ทูลานี กุยบุรี, ทูลานี เลอเบย์บุรี ปราณบุรี และสวัสดีป่าตอง บาย ทูลานี เพราะเราเชื่อว่าการรับฟังทุก ๆ ความคิดเห็น จากทุก ๆ ฝ่าย คือส่วนสำคัญในการบริษัทจัดการ อีกทั้งการได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นการช่วยให้กลุ่มเจ้าของโรงแรมกลับมายืนหยัดในธุรกิจได้อีกครั้ง และเตรียมพร้อมสำหรับการกลับมาของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การบริการและการโรงแรม