เร่งคัดแยกผู้เสียหายคดีปริญญ์ คุกคามทางเพศ

ส่งหน้านี้ให้เพื่อน

เช้านี้ที่หมอชิต – หลังจากมีผู้เสียหาย 9 คนเข้ามาแจ้งความเอาผิดเพิ่มในคดีอดีตรองหัวหน้าพรรค ทำอนาจารและข่มขืน ตำรวจบอกว่าตอนนี้สอบปากคำผู้เสียหายเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว จากนี้ต้องพิจารณาแยกกลุ่มผู้เสียหายว่า ใครเป็นพยาน หรือผู้เสียหาย และจะต้องพิจารณาว่าจะแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาเพิ่มอีกกี่ข้อหากี่คดี

ความคืบหน้ากรณีนายษิทธา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม พาหญิงสาวผู้เสียหาย 9 คนเข้าแจ้งความที่ สน.ลุมพินี เพื่อเอาผิดกับนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

พลตำรวจตรี ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายทั้ง 9 คนเล้ว ซึ่งจากนี้ชุดสืบสวนสอบสวน สน.ลุมพินี จะนำคำให้การไปตรวจสอบกับพยานหลักฐานที่สามารถสืบหามาได้ และจะคัดแยกว่าผู้เสียหายคนไหนที่เป็นพยาน และคนไหนประสงค์แจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ต้องหา ก่อนที่จะพิจารณาว่าพฤติการณ์ของผู้ต้องหาเข้าข่ายความผิดในข้อหาใดบ้าง

ขั้นตอนหลังจากนี้จะไม่มีการไปขอหมายจับเมื่อผู้เสียหายชุดก่อนหน้านี้ แต่จะเป็นการเรียกผู้ต้องหาให้มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในคดีใหม่ เนื่องจากตามกฎหมายแล้ว ผู้ต้องหาได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหา และถูกนำไปฝากขังต่อศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อมีคดีที่เกิดขึ้นในรูปแบบลักษณะเดียวกัน จะใช้วิธีเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม แทนที่จะออกหมายจับ

ส่วนเรื่องคลิปเสียงและคลิปวีดีโอที่ผู้เสียหายนำมามอบให้กับพนักงานสอบสวน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนสอบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบถอดคำพูดออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร และจะส่งคลิปต่อให้กองพิสูจน์หลักฐาน นำไปตรวจสอบเพิ่มว่า เป็นการตัดต่อหรือปลอมแปลงขึ้นมาหรือไม่ เพื่อนำไปใช้ประกอบในสำนวนคดี ส่วนจะเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนสอบสวนหรือไม่ ต้องนำไปเปรียบเทียบกับพยานหลักฐานที่ตำรวจหามาได้ก่อน

สำหรับการไปตรวจค้นห้องที่เกิดเหตุภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งที่ซอยสุขุมวิท 3 เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้ตรวจสอบและเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุไปได้มากพอสมควร แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่า เก็บสิ่งใดไปบ้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานจะนำไปตรวจ เพื่อหาความเชื่อมโยงกับคำให้การของผู้เสียหายและผู้ต้องหา

ส่วนกรณีที่ไฮโซลูกนัท และภรรยาที่เป็นผู้เสียหาย แสดงความไม่พอใจที่ตำรวจไม่อนุญาตให้ขึ้นไปในจุดเกิดเหตุ เรื่องนี้พลตำรวจตรี ไตรรงค์ ชี้แจงว่า ที่ไม่ให้ขึ้นไปเพราะเกรงว่าจะผิดเงื่อนไขจากการขอหมายค้นของศาล และอาจเกิดปัญหาตามมาในภายหลัง ป้องกันการโต้แย้งจากฝั่งของผู้ต้องหา เรื่องการเก็บวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ ว่ามีการอนุญาตให้บุคคลภายนอกนำวัตถุพยานเข้าไปปะปนกับการตรวจสอบของตำรวจได้


ส่งหน้านี้ให้เพื่อน